เนื่องในโอกาสที่ราชบัณฑิตยสภาครบรอบ ๑๐๐ ปี ใน พ.ศ. ๒๕๖๙ จึงได้จัดงานแถลงข่าว การประชุมวิชาการ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปีราชบัณฑิตยสภา เรื่อง “ราชบัณฑิต มองไกล นำวิจัยปรับตัวรับมือโลกร้อน ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็น ประธานเปิดการประชุมและเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการ ในวันศุกร์ที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗ เวลา ๑๔.๓๐ น. ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ราชบัณฑิตยสภา โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล ราชบัณฑิต นายกราชบัณฑิตยสภา เป็นประธานจัดงานแถลงข่าว งานประชุมวิชาการ “ราชบัณฑิต มองไกล นำวิจัย ปรับตัวรับมือโลกร้อน” เพื่อเฉลิมฉลอง ในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปีราชบัณฑิตยสภา โดยในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.สมบูรณ์ สุขสำราญ ราชบัณฑิต อุปนายกราชบัณฑิตยสภา พร้อมด้วยศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ราชบัณฑิต และ ศาสตราจารย์ ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ราชบัณฑิต ร่วมเป็นผู้ดำเนินโครงการฯ ปาฐกถาพิเศษ ซึ่งงานประชุมวิชาการจะจัดขึ้น ในวันศุกร์ที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๓๐-๑๗.๐๐ น. และวันเสาร์ที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗ เวลา ๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ นอกจากนี้ ภายในงานแถลงข่าวได้จัดให้มี พิธีมอบเงินสนับสนุนโครงการฯ จากมูลนิธิ สิริวัฒนภักดี, บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(สกสว.), บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน), องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) และมูลนิธิสวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ อีกด้วย
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล ราชบัณฑิต นายกราชบัณฑิตยสภา กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า ราชบัณฑิตยสภา ได้เล็งเห็นปัญหาด้านผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือโลกร้อนในทวีปเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยได้เกิดขึ้น ซึ่งปัญหานี้จะต้องใส่ใจรับฟังคำอธิบายด้านวิทยาศาสตร์ถึงสาเหตุของปัญหา รวมทั้งการ คาดการณ์ผลกระทบต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด มีส่วนร่วมในการปรับตัวที่จะอยู่กับโลกร้อนที่ร้อนขึ้น เพื่อส่งแรงผลักดันให้รัฐบาล หาแนวทางแก้ไขอย่างจริงจัง เนื่องจากปัญหาดังกล่าวส่งผลต่อเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง ประชากรจะขาดรายได้ ไม่มีกินมีใช้ จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องทบทวนความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของปัญหาโลกร้อนโดยเฉพาะต่อประเทศไทย รวมทั้ง ให้ข้อเสนอแนะสำหรับประชาชน เอกชน และรัฐบาลในการปรับตัวและแก้ไขปัญหา ซึ่งสังคมโดยรวมตื่นตัวในเรื่องนี้ และมีส่วนในการหาทางลดผลกระทบร่วมกัน
หน้าที่ประการหนึ่งของราชบัณฑิตยสภาตามพระราชบัญญัติราชบัณฑิตยสภา พ.ศ. ๒๕๕๘ที่ระบุไว้ในมาตรา๘ (๓) คือ ให้ความเห็น คำแนะนำ และคำปรึกษาทางวิชาการแก่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ ราชบัณฑิตยสภา เห็นว่า ปัญหาและการป้องกันผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนที่ทวีความรุมแรงขึ้นเรื่อย ๆ และ ปัญหาฝุ่นละอองขนาดจิ๋วที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือฝุ่น PM 2.5 ที่ประเทศไทยที่กำลังเผชิญอยู่นั้น เป็นปัญหาที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน จึงสมควรจัดการประชุมเนื่องในการเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปี ราชบัณฑิตยสภา เรื่อง“ราชบัณฑิต มองไกล นำวิจัย ปรับตัวรับมือโลกร้อน” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันระหว่าง สมาชิกของราชบัณฑิตยสภาทั้ง ๓ สำนัก ได้ประชุมร่วมกันเพื่อศึกษาหาแนวทางแก้ปัญหาและป้องกันผลกระทบของการ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน และ PM 2.5 และเพื่อจัดกิจกรรมวิชาการเนื่องในการเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปี ราชบัณฑิตยสภา โดยการระดมความคิดเห็นและการอภิปรายร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกและประชาชนผู้สนใจ เพื่อหา แนวทางแก้ปัญหาและป้องกันผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน และ PM 2.5 เรื่อง ผลกระทบจากโลกร้อนต่อประเทศไทยและ การตอบสนองของเอกชน ประชาชน รัฐบาล แล้วจัดทำเป็นเอกสารข้อเสนอแนะ เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลให้พิจารณา ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม และเป็นรูปธรรมมากขึ้น