กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องงาน “แอน จักรพงษ์” น้ำตาซึม ฉลอง 8 ปี ช่อง JKN Dramax เผยความในใจฝ่าฝันอุปสรรค์มากมายกว่าจะทะยานขึ้นเป็นช่องอันดับ 1 ประเภท Entertainment Variety ปลุกกระแสซีรีส์ภารตะพันล้านสำเร็จ ประกาศปรับผังช่องใหม่เป็นภารตะ 24 ชม.
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 แล้วสำหรับ JKN Dramax สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมอันดับหนึ่งประเภท Entertainment Variety ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของ บริษัท เจเคเอ็น.โกลบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) ก็ได้จัดงานฉลองครบ 8 ปี The Influencer “เพราะเรารักกัน ไม่มีวันสิ้นสุด” พร้อมกับแถลงปรับผังใหม่เป็นช่องภารตะ 24 ชั่วโมง สอดคล้องกับกระแสซีรีส์อินเดียฟีเวอร์ที่ฮอตไปทุกช่องทุกสถานีในประเทศไทยขณะนี้ สร้างรายได้ให้บริษัท เจเคเอ็น แค่ไตรมาสแรกของปีก็ฟันรายได้ไปหลักพันล้านจากการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ซีรีส์อินเดียไปยังช่องต่างๆ ในงานวันนี้ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำเทรนด์ภารตะพันล้าน ด้วยการมาร่วมงานของ Anas Rachid ผู้รับบท “สุราจ” พร้อมเหล่านักแสดงนำจากซีรีส์อินเดีย “ลิขิตรักนี้เพื่อเธอ” Diya Aur Baati Hum ซีรีส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอินเดียตลอดกาล และสร้างประวิติศาสตร์ในการฉายต่อเนื่องยาวนาถึง 5 ปี โดยครั้งนี้ยกขบวนซูเปอร์สตาร์นำในเรื่องมาถึง 5 คนด้วยกัน รวมทั้ง Avinesh Rekhi ผู้รับบท Umar Shankar ในซีรีส์ สุริยันจันทรา ตราบนั้นฉันรักเธอ หรือลิขิตรักนี้เพื่อเธอ ภาค 2 นั่นเอง แต่กว่าจะมีวันนี้ “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิปดิ์” ต้องฟันฝ่าอุปสรรค์มากมายทั้งในช่วงชีวิตที่ดิ่งสุด กว่าจะนำพา JKN Dramax บริษัท เจเคเอ็น มีเดีย(จำกัด) เข้าตลาดทรัพย์มูลค่าเป็นหมื่นล้าน ซึ่งแอน จักรพงษ์ถึงกับน้ำตาซึมเผยถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า….
“ย้อนหลังไปเมื่อวันที่ 14 มีนา 54 คือวันที่แอนเปิดบริษัทกับ GMM Grammy และ ก่อตั้งช่องทีวีดาวเทียมที่ชื่อว่าJKN นึกไม่ถึงว่าวันนี้ครบรอบ 7 ปีเต็มและก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 นึกไม่ถึงว่าพายุร้ายหลายครั้งที่เคยผ่านมาจะผ่านไปแล้วแอนยังยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคงจนกลายเป็นบริษัทมหาชนในที่สุด บางคนอาจจะมองความแข็งแกร่งของแอนเป็นความเกรียวกราด…บางคนอาจจะมองความทะเยอทะยานของแอนเป็นสิ่งที่มากเกิน… แต่กว่าจะผ่านภาวะ เกือบตาย จะมีใครเห็นบ้างไหมว่าผู้หญิงข้ามเพศคนนี้ต้องแกร่งเยี่ยงภูผา หลายครั้งที่มีน้ำตาก็จะไม่แสดงให้ใครเห็น หลายครั้งกับการตัดสินใจที่เด็ดขาด อาจดูเหมือนใจร้ายแต่ข้างในใจเจ็บเหลือเกิน เพราะ หน้าที่มาก่อนสิทธิเสมอ”
“สำหรับแอนและผลประโยชน์ส่วนรวมต้องมาก่อนความสุขส่วนตนเสมอ กว่าจะมาเป็นแอนวันนี้ไม่มีคำว่าง่ายเพราะต้องเสียสละความสุขส่วนตนที่ไม่สามารถอธิบายให้ใครเข้าใจได้เลย ยิ่งสูงยิ่งหนาวและยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยว อุปสรรคมันหล่อหลอมทำให้อดทนเกินมนุษย์ธรรมดา หลายครั้งที่แอนใช้เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม กลบเกลื่อนความทุกข์ในใจโดยเฉพาะตอนที่ซื้อบริษัทคืนจาก GMM แล้วมาทำต่อเองที่ศาลายาซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่หนีออกจากบ้านเพื่อไปเป็นตัวเอง เพื่อไปเป็นผู้หญิงคนนั้นที่ฉันเห็นในกระจกมาตั้งแต่เด็ก แล้วจะไม่เดินกลับไปหากไม่ถึงเส้นชัย ซึ่งแอนรู้มาโดยตลอดว่าการตัดสินใจครั้งนั้นคือ การเอาชีวิตเป็นเดิมพัน หลายครั้งที่แอนร้องไห้อยู่คนเดียวโดยไม่สามารถให้น้องสาวเห็นเพราะเราสองคนจะจิตตกร่วมกันไม่ได้ หลายครั้งที่อยู่ในช่วงความเดียวดายอย่างทรมาน แต่ในปี 58 กลับเริ่มเห็นแสงสว่างที่รู้สึกมหัศจรรย์กับตัวเองนั่นก็คือกระแสคนดูจากเรื่อง ลิขิตรักนี้เพื่อเธอ ความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ก่อกำเนิดแฟนคลับ JKN และทุกคนเรียกตัวเองว่า แฟนคลับแม่แอน ก็ค่อยค่อยเพิ่มขึ้นจากจำนวนหนึ่งกลายเป็นมหาศาล…..พวกคุณคือคนที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าชีวิตต้องก้าวต่อไป”
“วันนี้เป็นอีกวันที่รอคอย เพราะจากวันแรกที่เราได้เห็นซีรีส์เรื่องนี้ที่อินเดีย เราเห็นเลยว่าน่าจะถูกรสนิยมคนไทย เพราะเราเองชมครั้งแรก ก็อยากติดตาม ติดหนึบเลย ถือเป็นยาเสพติดทางสายตา ซีรีส์ ลิขิตรักนี้เพื่อเธอ เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นการจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้แอน เริ่มต้นในการนำซีรีส์อินเดียเข้ามาให้ผู้ชมชาวไทยได้บริโภค ตอนนั้นคนไทยยังนิยมเกาหลี และหนังจีนอยู่เลย JKN.Dramax ถือได้ว่าเป็นช่องแรกที่นำซีรีส์อินเดียมาลงจอ และก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนทำให้ JKN.Dramax ก้าวขึ้นสู่ช่องทีวีดาวเทียมอันดับ 1 ในประเภทวาไรตี้ และสร้างฐานคนดูแฟนคลับมาอย่างต่อเนื่องและก่อนใคร”
“วันนี้เราถึงใช้ชื่องานว่า The Influencer เพื่อตดอกย้ำความเป็นผู้ทรงอิทธิพลในการสร้างกระแส ภารตะพันล้านในบ้านเราจนวันนี้ เรียกได้ว่าได้รับความนิยมทั่วประเทศ ทำเรตติ้งอันดับหนึ่งเกือบทุกช่องที่เอาซีรีส์อินเดียของเราไปฉาย ก็ต้องขอขอบคุณผู้ชมทุกคนที่อยู่กับเรามาตลอด เพราะเรารักกัน ไม่มีวันสิ้นสุด จริงๆ และแอนสัญญาว่าจะนำความสุข ความบันเทิงมามอบผ่านหน้าจอให้แฟนๆทุกคนของเราแบบนี้อย่างเต็มอิ่มตลอดไปแน่นอนคะ”