29 เมษา แห่ร่วมงานสมเด็จพระนเรศฯ กระหึ่มแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา พิธีบวงสรวงวันสวรรคต ณ วัดวรเชต วัดถูกลืม

กระหึ่มอยุธยา วันที่ 29 เมษายน นี้ ร่วมรำลึกแผ่นดินพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันครบรอบวันสวรรคต วัดวรเชต วัดที่ถูกลืม ร่วมกับ “อ.นิติฤกตย์” จัดพิธีบวงสรวงรำลึกพระองค์ดำ รวมน้ำหนึ่งใจเดียวกันแต่งชุดไทย ย้อนอดีตกรุงศรีอยุธยา

จัดพิธีบวงสรวงเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นประจำทุกปีสำหรับ วัดวรเชษฐ์(วรเชต)นอกเกาะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ซึ่งว่ากันว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ที่ถูกลืมลบจากหน้าประวัติศาสตร์  โดยในปีนี้ พระอธิการสถิตย์อาภากโร เจ้าอาวาส ร่วมกับ “อ.นิติกฤตย์ กิตติศรีวรนันท์” ผู้คิดค้นศาสตร์พลังตัวเลขคนแรกของประเทศไทย จัดงานน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันครบรอบสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2418 ในวันที่ 29 เมษายนที่จะถึงนี้ ณ วัดวรเชษฐ์(วรเชต) จ.พระนครศรีอยุธยา

ภายในงานปีนี้ถูกเนรมิตให้เป็นบรรยากาศไทย ผู้ร่วมงานแต่งกายชุดไทยเข้าร่วมงาน และนอกจากจะจัดให้มีพิธีบวงสรวงแล้ว ก็ยังมีการจัดตั้งกองทาน 5 กอง , เจริญพระพุทธมนต์ , สวดธัมจักร ,ปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐาน , ถวายอาหารเพล และบังสุกุลเสริมดวงชะตาเพื่อความเป็นศิริมงคลผู้มาร่วมงาน โดยอ.นิติกฤตย์ ได้กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า…. 

“วัตถุประสงค์ของการจัดงานบวงสรวงครั้งนี้ก็เพื่อระลึกถึงพระมหากษัตริย์ วีรบุรุษที่กอบกู้ชาติ ถ้าไม่มีท่าน เราก็ไม่มีวันนี้ เป็นการแสดงถึงการกตัญญูกตเวที เป็นการรำลึกถึงท่าน อีกเรื่องก็จะเป็นเรื่องของการที่เราจะมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว กลับมาเป็นวิถีไทย เพราะผมก็มีความคิดว่าจะเอาอาหารไทย ขนมไทยกลับมา เอาวัฒนธรรมกลับมา ทั้งการแต่งกาย ทั้งความรู้สึก ทั้งจิตวิญญาณมันมาด้วยกันหมด คนไทยต้องรักความเป็นไทย งานบวงสรวงก็เป็นงานหนึ่งที่ทำได้ และยิ่งเป็นการทำให้กับบรรพบุรุษด้วยยิ่งสมเหตุสมผล คนที่มาแล้วเขาจะรู้สึกเองว่ามีพลัง กลับไปค้าขายเขาจะรู้สึกเองว่าชีวิตจะดีขึ้น”

“มีน้องคนหนึ่งเมื่อปีที่แล้วเขาเดินไม่ได้เพราะอุบัติเหตุ เขาก็บอกว่าปีนี้เขาอยากไปด้วยนะเพราะหลังจากบวงสรวงเมื่อปีที่แล้ว เขามีงานเข้ามาหลายทาง มีธุรกิจ มีโอกาส มีรายได้เยอะขึ้น เขาเชื่อว่าเป็นเพราะงานนี้ เพราะมันเกิดขึ้นหลังจากที่เขากลับจากงานนี้ทันทีเลย และชีวิตเขาก็เปลี่ยนไปเลย และถ้าจะมาต้องมาด้วยจิตวิญญาณที่มีความคิดเป็นส่วนรวมด้วย ไม่ใช่ว่ามาแล้วคิดแต่จะกอบโกยอย่างเดียว เพราะตอนจบยังไงแล้วเราต้องนำบุญกลับไปให้แผ่นดิน ความดีความร่มเย็นที่เราได้มาในชีวิต เราขอแบ่งคืนให้กับแผ่นดินนี้ได้สงบสุข ถึงท่านจะจากไปแล้ว แต่ผมเชื่อว่าท่านก็ยังปกปักษ์รักษาประเทศไทย”

“การเตรียมตัวของผู้ที่จะเข้าพิธีบวงสรวงครั้งนี้ ก็คือการสวมชุดไทยครับ ปกติการบวงสรวงจะใส่ชุดขาวใช่มั้ยครับ แต่คราวนี้ก็ถือเป็นการรณรงค์วัฒนธรรมไทยไปในตัวด้วย ก็ใส่ชุดไทย ก็ให้อยู่ในโทนสีขาว สีทอง เน้นเพื่อจะใส่เข้าพิธีกรรมครับ พิธีบวงสรวงนี้เป็นของสมเด็จพระนเรศวรครับ เหมือนเราให้สมพระเกียรติท่าน ก็ให้ผู้ร่วมพิธีใส่ชุดไทย ชุดขาวกัน แต่เน้นอยากให้ใส่ชุดไทย เพราะเราบวงสรวงในวันครบรอบวันสวรรคตของพระองค์ เพราะเราถือคติว่าวันสวรรคตของพระมหากษัตริย์ก็เป็นวันที่เสด็จกลับขึ้นสวรรค์ไป”

ชมภาพงานบวงสรวงปี 60

https://youtu.be/HL9NqrX8oVs