สาวๆหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ปัญหาผิวเสีย มีสาเหตุที่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น มลภาวะรอบๆตัวเรา อาทิ ฝุ่น ควัน แสงแดด หรือจะเป็นครีมบำรุงผิวหน้า เครื่องสำอาง อุปกรณ์แต่งหน้า โดยหลายคนพยายามแต่งหน้าปกปิดเพื่อแก้ปัญหา แต่วิธีนี้ยิ่งเพิ่มปัญหาสำหรับผิว เพราะนอกจากสารต่างๆในเครื่องสำอางที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองแล้ว ยังก่อให้เกิดสิวตามมาอีกด้วย และหากอุปกรณ์เครื่องสำอางไม่สะอาดด้วยแล้ว ก็เป็นการสะสมเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะไปทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว อาจจะก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
นายแพทย์อนุพงษ์ ไพรวิจิตร หรือคุณหมออะตอม แพทย์ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งอะตอมคลินิก สถาบันที่สาวๆไว้วางใจเป็นที่ปรึกษามาเกือบ 10 ปี มักจะแนะนำการดูแลผิวพื้นฐาน 2 ข้อที่ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว ดูแลผิวภายนอกด้วยการอาบน้ำและการล้างหน้าด้วยอุณหภูมิปกติหรืออุ่นเล็กน้อย ไม่ร้อนจนเกินไป พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และไม่ควรล้างหน้าบ่อยจนเกินไป ซึ่งข้อมูลนี้เป็นที่ถือยึดถือมาอย่างยาวนานและยืนยันผ่าน The American Academy of dermatology ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
นอกจากนั้นคุณหมออะตอม ยังเผยถึงส่วนสำคัญในการดูแลผิวเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่คุณหมออยากให้ทุกคนบำรุงเสมอคือสกินแคร์ ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน เลือกผลิตภัณฑ์ที่ลดการสูญเสียน้ำจากผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ดูดซึมเร็ว และอยู่ได้นานบนผิวโดยไม่ต้องทาซ้ำหลายครั้ง ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง รวมถึงครีมกันแดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยคือประเทศที่ร้อนมาก แสงแดดเป็นตัวการหนึ่งที่จะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวมาในรูปของเหงื่อ หากไม่ทาครีมกันแดดนอกจากผิวที่ขาดความชุ่มชื้นแล้ว ความหมองคล้ำตามมาแน่นอนครับ และสุดท้ายสำหรับสาวออฟฟิศโดยเฉพาะที่แม้จะบำรุงผิวเท่าไหร่ แต่เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลให้ผิวเราแห้งและขาดความชุ่มชื่นได้เช่นกัน โดย Harvard medical school วิจัยมาแล้วว่าเราการควบคุมความชื้นเครื่องฟอกอากาศ และควรตั้งค่าความชื้นที่ 60% ซึ่งเป็นค่าที่เหมาะสมที่สุดครับ”