ในปี 2018 มีสาวๆ คนไหนบ้างที่ไม่อยากหน้าเด็ก แต่จะให้หน้าเด็กนั้นมีวิธีดูแลอย่างไรมีใครรู้บ้าง? จากการวิจัยล่าสุดพบว่า วัยที่เผชิญกับปัญหาผิวหน้าไปก่อนวัยอันควรนั้น คงหนีไม่พ้นสาวๆ วัยทำงานอย่างเรา เพราะนอกจากจะเริ่มอายุเยอะขึ้นแล้ว ยังต้องเผชิญกับความเครียด และความกดดันในงานที่ทำทุกวัน เป็นสาเหตุให้ผิวหน้าที่เคยสดใส อ่อนเยาว์ ปรากฏริ้วรอยก่อนวัยอันควร โดยในปัจจุบันแพทย์ผิวหนังและสถาบันเสริมความงามหลายแห่งที่คิดค้นนวัตกรรมสำหรับดูแล และแก้ไขปัญหาทางด้านความงามขึ้นมามากมาย ซึ่งรวมถึงอะตอม คลินิก
ล่าสุด นายแพทย์อนุพงษ์ ไพรวิจิตร หรือคุณหมออะตอม แพทย์ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งอะตอม คลินิก สถาบันที่สาวๆ ไว้วางใจเป็นที่ปรึกษามาเกือบ 10 ปี ได้ออกมาเล่าถึงนวัตกรรมใหม่ของคลินิกที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน กับ โวลิ่ม ฟิลเลอร์ (Volyme Filler) โดยฟิลเลอร์ที่ทางคลินิกเลือกใช้จะเป็นฟิลเลอร์นำเข้าจากประเทศสวีเดนภายใต้แบรนด์เรสติเลน (Restylane) ซึ่งใช้เทคโนโลยี OBT (Optimal Balance Technology) เป็นเทคโนโลยีใหม่ของเรสติเลน ฟิลเลอร์มีเนื้อเจลนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง สมารถช่วยเติมเต็มและปรับรูปหน้าให้สวยละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการ ใช้ในพื้นที่ที่ขาดความยืดหยุ่นมากๆ อาทิ ใต้ตา ขมับ แก้มตอบ ร่องแก้ม หรือในผู้ที่ค่อนข้างมีอายุ จะช่วยให้หน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง ซึ่งโวลิ่ม ฟิลเลอร์นั้นมีคุณสมบัติต่างจากฟิลเลอร์ตัวอื่นๆ ที่ช่วยเติมเต็มและปรับรูปหน้า คือโวลิ่ม ฟิลเลอร์จะมีความละเอียดและโมเลกุลที่ค่อนข้างเล็กกว่า ทำให้สามารถเกาะผิวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนที่กังวลว่าหลังฉีดแล้วจะเป็นก้อน หรือ ทำให้ผิวไม่เรียบเสมอกันคุณหมออะตอม กล่าวเพิ่มเติมว่า “ฟิลเลอร์ ก็คือสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ กรดไฮยาลูโรนิค ซึ่งเป็นสารประกอบของคอลลาเจนที่มีอยู่แล้วในร่างกายของคนเรา ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์อยู่หลายยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐานของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมถึงของแบรนด์เรสติเลนที่คุณหมอนำเข้ามาด้วย ซึ่งในปัจจุบันมีของเลียนแบบ รวมถึงมีสารปลอมแปลงออกมาเยอะมาก โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบได้เองทางเว็บไซต์ของอย.โดยตรง เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยครับ
สำหรับใครที่อยากเข้ามาปรึกษาปัญหาผิวหรือการปรับรูปหน้ากับคุณหมอก็สามารถเข้ามาได้ที่อะตอม คลินิก ทุกสาขา ซึ่งปัจจุบันเรามีทั้งหมด 5 สาขาทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ได้แก่ สาขาสุขุมวิท19 สาขาเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา สาขาโคราช สาขาขอนแก่น และสาขาบุรีรัมย์”