เนื่องจากอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของภาครัฐ ที่สร้าง
รายได้ให้กับประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงมีนโยบายให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน ให้ก้าวทันอุตสาหกรรมแบบดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สอดคล้องกับนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ประเทศไทยให้แข่งขันได้ระดับสากลในอนาคต
ศูนย์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์แห่งประเทศไทย หรือ KiThai (Kreative Industry of Thailand)
จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2561 เป็นส่วนหนึ่งของวิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (College of Creative Industry) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ศิลปะและวิทยาศาสตร์ ด้านอัญมณี เครื่องประดับแฟชั่น และของตกแต่งบ้าน เพื่อเป็นการเพิ่มพลังสร้างสรรค์ นวัตกรรมอุตสาหกรรม และเสริมความเข้มแข็งให้ ผู้ประกอบการไทย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแนะนำบทบาทและหน้าที่ของศูนย์ฯให้เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปมากยิ่งขึ้น มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ จึงเปิดตัว KiThai ภายในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 62
(Bangkok Gems and Jewelry Fair) ซึ่งจัดขนระหว่างวันที่ 7-11 กันยายน 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องของการสร้างมูลค่าเพิ่ม ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายในการเปลี่ยน
เศรษฐกิจแบบเดิม ไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม จึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ จัดโซน Innovation and Design เพื่อแสดงผลงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการดีไซน์ เพื่อให้ได้นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจ ภายในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 62
“การที่วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จัดตั้ง KiThai ถือว่ามีประโยชน์มากสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่และรายย่อย ทีต้องการพัฒนาขีดความสามารถด้านการออกแบบ และนวัตกรรม ให้สามารถสร้างสรรค์สินค้าและบริการให้มีมูลค่าเพิ่ม มีโอกาสขยายธุรกิจและขยายตลาดสินค้าได้ต่อไปในอนาคต หรือไปสู่การยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ทางวิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ยังมีการคิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยลดต้นทุนหรือลดสารบางชนิดที่ต่างประเทศไม่ให้มีการใช้ สามารถนำไปช่วยพัฒนาอาชีพให้กับชาวชุมชน ในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกต่างประเทศได้ด้วย ถือว่าเป็นสนับสนุนทั้งผู้ประกอบการ และแรงงานชุมชน ในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
รศ.ดร.สมชาย สันติวัฒนกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดตัง KiThai ว่าเป็นการนำองค์ความรู้ทางวิชาการ ตลอดจนการวิจัยและพัฒนา มาเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่แข่งขันได้ระดับสากลในอนาคต
“ศูนย์แห่งนี้ดำเนินการเชี่อมโยงระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒมีชื่อเสียงทางด้านความสามารถในพัฒนาคนและการถ่ายทอดองค์ความรู้ ศูนย์อุตสาหกรรมฯ นี้ ตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาคนให้มีสมรรถนะในการทำงานภาคการผลิตในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ที่จะเกิดขึ้น ในอนาคต และตำแหน่งงานที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต นอกจากนี้เรายังเตรียมการให้ศูนย์ฯ เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระหว่างภาคอุตสาหกรรมเข้าสู่ชุมชนท้องถิ่นและสังคม เข้าสู่ยุคดิจิทัล” รศ.ดร.สมชาย กล่าว
ทางด้าน ผศ. ดร.ขจีพร วงศ์ปรีดี คณบดี วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ได้ขยายความถึงบทบาทของ KiThai ว่า “ภารกิจหลักของ KiThai เน้นการบริการแก่ผู้ประกอบการ 3 ด้าน ได้แก่ สนับสนุนด้านการตลาดและจัดจำหน่ายทั้งแบบออฟไลน์และแบบออนไลน์ บริการด้านการพัฒนา และฝึกอบรม ระยะสั้น และ บริการแนะนำปรึกษา ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการใหม่ ในการวางเป้าหมายว่า อยากจะทำให้อนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีทิศทางเดินร่วมกันอย่างไร ในงานแสดงสินค้านี้ ได้มีการนำเสนอตัวอย่างงานนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มาจากงานวิจัยของวิทยาลัย และงานสร้างสรรค์ ที่เกิดจากโจทย์ของผู้ประกอบการหรือชุมนุม ผ่านกระบวนการเรียนการสอนจนได้เป็นผลงานที่สามารถผลิตขายได้จริง ซึ่งทางศูนย์ฯ มีความต้องการขยายเครือข่ายผู้ประกอบการ ที่ต้องการมาร่วมสร้าง community เข้าสู่แพลตฟอรมในยุคดิจิทัลร่วมกัน ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมเป็นเครือข่ายกับศูนย์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์แห่งประเทศไทยได้ทางสื่อ social media หรือ website KiThai.org” ผศ.
ดร.ขจีพร กล่าว
ตื่นตาตื่นใจกับนวัฒกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ของนิสิต และคณาจารย์วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับศูนย์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์แห่งประเทศไทย (Ki Thai)ได้ที่บูธวิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โซน Innovation and Design Zone ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.openhouse.swu.ac.th/cci