ความสนุกตื่นเต้น มันผุดขึ้นมาในหัวทันทีหลังจากที่ทางโรงแรมสุดหรู เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ให้เกียรติเชิญไปร่วมทำกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เชื่อว่าหลายๆคนต้องชอบแน่นอน นั่นก็คือล่องแก่ง ผจญภัยไปตามสายน้ำเย็นฉ่ำในฤดูน้ำหลาก รับประกันความสนุกฟินกระจาย แถมยังแอบได้ยินมาว่างานนี้กินอิ่ม นอนสบายที่โรงแรมแคนทารี กบินทร์บุรี อีกด้วย! จะช้าอยู่ใย เก็บกระเป๋าด่วนๆ สำหรับทริปสุดฟินในครั้งนี้ เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับใครหลายๆคนโดยเฉพาะคนกรุงเทพฯที่ต้องการหาเวลาไปพักผ่อนต่างจังหวัดแบบไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก เพียงแค่ขับรถไปชั่วโมงนิดๆก็ถึงที่หมายยังโรงแรมแคนทารี กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี อีกหนึ่งสาขาในเครือ เคป แอนด์ แคนทารี ที่เหมาะกับการแวะมาพักผ่อนหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง แถมยังเหมาะกับคนที่รักการตีกอล์ฟอีกด้วย เกริ่นความครบวงจรของเคป แอนด์ แคนทารี มาพอประมาณ ก่อนที่เราจะแวะพักผ่อน ระหว่างทางทางทีมงานได้แอบเตรียมกิจกรรมน่ารักๆที่ทำให้เราได้สัมผัสถึงภูมิปัญญาคนท้องถิ่นและไดสัมผัสถึงรสชาติความหอมหวานของ “น้ำเมล่อนปั่น , ซาลาเปาไส้เมล่อน” ที่จัดเสิร์ฟให้ถึงมือกันที่ พ.ฟาร์ม รวมไปถึงให้เราได้ลองทำ พายเมล่อน ด้วยตัวเอง ครีเอทลวดลายได้ตามใจชอบ ก่อนจะแวะเข้าไปดูเหล่าพืชพันธุ์ผลไม้ปลอดสารพิษที่ทางฟาร์มปลูกเอง เรียกว่านอกจากจะอิ่มหนำจากอาหารว่างสไตล์เมล่อนแล้ว เรายังได้สูดอากาศธรรมชาติได้เต็มปอดอีกด้วย เดินทางกันต่อเพียงไม่กี่อึดใจก็ถึงที่หมายโรงแรมแคนทารี กบินทร์บุรี ก้าวขาลงจากรถมองไปยังด้านหน้าของโรงแรมต้องร้องว้าว! ทันที เพราะไม่คาดคิดว่าจังหวัดเล็กๆที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ตลอดจนธรรมชาติที่สวยงาม จะมีโรงแรมสุดหรูตั้งตระหง่านเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติด้วย งานนี้ไม่รอช้า รีบเดินสำรวจชั้นล่างเห็นเหล่าพนักงานหน้าตายิ้มแย้มต้อนรับแขกที่มาเข้าพักเป็นอย่างดี
จะได้เข้าไปดูในส่วนของห้องพัก ที่เห็นครั้งแรกก็ต้องพูดเลยว่า ให้อยู่ในห้องนี้ทั้งวันก็ยังได้ เพราะกว้างขวาง เรียบหรูมีสไตล์ และมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง แม้กระทั่งเตาไฟฟ้า เครื่องทำครัวต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้เพื่อบริการแขกที่มาพักแบบรายเดือน ทีวี ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า อุปกรณ์ครบ รวมไปถึง Free Wifi ที่เตรียมไว้เวอร์วิสพร้อม แวะเวียนเข้าไปในห้องน้ำนี่เหมือนสวรรค์ เปิดน้ำลงไปนอนแช่ผ่อนคลายชิลๆ เสร็จสรรพก็ออกมานอนพักผ่อนดูทีวีไปชิลๆ ไม่มีอะไรจะดีและชิลไปมากกว่านี้แล้วล่ะ อยากจะนอนยาวๆแล้วตื่นอีกทีวันพรุ่งนี้ไปเลย แต่อย่าลืมว่าเรามีกิจกรรมกันต่อเนอะ
เมื่อพักผ่อนหย่อนใจกันพอประมาณ เคป แอนด์ แคนทารี พาเราไปชมบรรยากาศของ “เขื่อนขุนด่านปราการชล” หรือเขื่อนคลองท่าด่าน เขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลก ที่มีความยาวรวมถึง 2,720 เมตร ความสูงสูงสุด 93 เมตร ที่บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก สำหรับเขื่อนแห่งนี้ เป็นเขื่อนที่กั้นแม่น้ำนครนายก ที่สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เพื่อเก็บกักน้ำในช่วงหน้าฝนไว้ในหน้าแล้ง และควบคุมไม่ให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือน ไร่นา และพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านในหน้าฝน หลังจากที่ขึ้นไปชมวิวแล้วมองออกไปจนสุดสายตา เราสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองนครนายกได้สวยงามอีกมุมหนึ่งเลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ที่สักครั้งแนะนำว่าต้องมาให้ได้ เมื่อเก็บบรรยากาศจากเขื่อนฯเสร็จสรรพ ถึงเวลาของการกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมกันแล้ว งานนี้พอถึงห้องปุ๊บขอสลัดผ้าใส่ชุดว่ายน้ำลงไปว่ายสวยๆที่สระของโรงแรมพร้อมชมวิวรอบๆข้างไปเบาๆ ก่อนที่จะลงไปดินเนอร์ในบรรยากาศแบบเป็นกันเองในห้องอาหารของทางโรมแรมกับบรรดาอาหารนานาชาติที่จัดเตรียมมาเสิร์ฟเป็นบุพเฟต์ทั้งไทยและเทศ กับหลากหลายเมนูที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยใครมาพักที่นี่ต้องกิน แต่ซิกเนเจอร์ของทางโรงแรมที่ยกมาเสิร์ฟและให้บรรดาสื่อมวลชนถ่ายรูป 4 เมนูสุดอร่อย ที่ โรงแรมเคปแคนทารี่
– เนื้อสันในออสเตรียย่างเสิร์ฟกับซอสทรัฟเฟิล (Gilled Beef Tenderloin with Truffle Sauce)
– เสต็กเนื้อติดมัน (Rib Eye Steak)
-พิซซ่าหน้าผักขมผัดครีมกุ้ง (Affocato Pizza)
-ทงคัตสึ เซต (Tonkatsu Set) ตบท้ายด้วยการสาธิตวิธีการทำของหวาน
-เครปซอสส้ม หวานฉ่ำที่ทานคู่กับไอศกรีมฟินสุดๆ มาที่นี่ต้องสั่ง! ปิดท้ายกับบรรยากาศสังสรรค์เบาๆ นั่งจิบไวน์สวยๆเม้าท์มอยกับเพื่อนๆ หรือใครสะดวกยกแก้วเบียร์เย็นๆมากระทบกันก็ไม่ว่ากัน
และแล้ววันสุดท้าย 2 คืนกับ 1 วัน ก็มาถึง ความสบายของห้องพักทำให้แทบไม่อยากลุกจากเตียง แต่เมื่อถึงเวลามันก็ต้องกระเด้งตัวขึ้นรีบอาบน้ำทานข้าวเช้า และรวมพลตรงดิ่งไปยัง “แก่งหินเพิง” สำหรับทริปล่องแก่งของเรา งานนี้ถึงปุ๊บก็ต้องมาฟังรับบรีฟจากเจ้าหน้าที่ถึงวิธีปฏิบัติตัวในการทำกิจกรรม ใส่เสื้อชูชีพ หมวกกันน็อคพร้อม มือคว้าไม้พาย แล้วเดินฝ่าป่าไผ่ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ก็จะถึงที่หมายจุดปล่อยตัว แต่พูดเลยว่า ระหว่างที่เราต้องเดินฝ่าป่าไม้ ลำบากแสนเข็ญด้วยหนทางที่ชุ่มไปด้วยโคลน แถมยังมีโขดหิน และทางเดินที่ลาดชันไม่สม่ำเสมอ ต้องเดินอย่างระมัดระวังสุดๆ ไม่อย่างนั้นต้องมีลื่นล้มอาจเลือดตกยางออกแน่นอน แต่ในที่สุดเราก็ถึงที่หมาย ก่อนจะลงเรือยางลำละ 5-6 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำหน้าเรือ งานนี้ฟินแถมเย็นฉ่ำสุดๆ ระหว่างทางเรายังได้ชมบรรยากาศของป่าไม้ริมแม่น้ำไปด้วยแบบเพลินๆ พอรู้ตัวอีกทีก็ถึงที่หมายซะแล้ว ก่อนจะกลับมาอาบน้ำและเตรียมตัวกลับสู่ชีวิตจริงที่กรุงเทพ ทางทีมเคป แอนด์ แคนทารี ยังพาสื่อมวลชนไปอิ่มท้องก่อนกลับบ้านที่ โรงแรมแคนทารี 304 อีกหนึ่งโรงแรมในเครือฯ กับร้านคาเฟ่ แคนทารี สาขาปราจีนบุรี ที่ใครผ่านมาแถวนี้ต้องแวะ ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึง เพราะเป็นแหล่งรวมของความอร่อยที่จัดเสิร์ฟมาให้เราได้อิ่มท้องกันเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น
Hokkaido sashimi salad
Exotic Fruit Crepe
Black chocolate banana salted caramel toast
สปาเก็ตตี้2สี ขี้เมาทะล
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทริปสุดฟินในวันหยุดที่ทางทีมเคป แอนด์ แคนทารี ดูแลและให้การต้อนรับเราเป็นอย่างดี อยากจะขอกราบงามๆ และแน่นอนว่าจะกลับมาใช้บริการที่นี่อีกแน่นอน
พิเศษ! โรงแรมแคนทารี กบินทร์บุรี และโรงแรมแคนทารี 304 ขอมอบสิทธิพิเศษวันหยุดสุดสัปดาห์ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 20 ธันวาคม 2561 ด้วยราคาพิเศษช่วง Weekend สำหรับ 2 ท่านพร้อมอาหารเช้ากับห้องพัก Studio Suite ราคาเริ่มต้นเพียง 1,800 บาท และ2,000 บาทเท่านั้น สนใจจองห้องพักได้ที่: https://capekantaryhotels.com/weekend/ โดยพิมพ์คูปอง Weekend Special เพื่อนำไปแสดงที่โรงแรม พร้อมรับสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับท่านที่วางแผนมาประชุมเป็นหมู่คณะพร้อมพักผ่อนก่อน/หลังการประชุม ในราคาพิเศษกับ Meeting Package ที่โรงแรมแคนทารี กบินทร์บุรี และโรงแรมแคนทารี 304 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2561 ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,700 บาท และ 1,850 บาทต่อท่านเท่านั้น
สนใจจองห้องพักและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โรงแรมแคนทารี กบินทร์บุรี โทร. 037-282-699, 037-203-193 หรือ E-mail: reservations@kantaryhotel-kabinburi.com CALL CENTRE 1627 หรือ www.capekantaryhotels.com
www.capekantaryhotels.com โทร. 037-282-699, 037-203-193 หรือ E-mail: reservations@kantaryhotel-kabinburi.com CALL CENTRE 1627