กรุงเทพฯ – BSH Hausgerate GmbH ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เผยรายได้จากยอดขายปี 61 มีรายได้ 13.4 พันล้านยูโร ถือเป็นรายได้จากยอดขายที่สูงเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ แม้จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินที่แสดงให้เห็นถึงผลกำไรที่ได้เพียงแค่ไม่ถึงร้อยละ 1 ซึ่งลดลงเล็กน้อยร้อยละ 3.2 จากปีก่อน โดยอิงตามสกุลเงินยูโร ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในปี 61 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8.2 คิดเป็น 673 ล้านยูโร ด้วยรายได้ที่ร้อยละ 5.0 ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ทั้งนี้ BSH ยังคงเสริมสร้างความร่วมมือกับบริษัทสตาร์ทอัพ โดยมุ่งเร่งความเร็วด้านนวัตกรรมและการพัฒนาธุกิจ รวมทั้งให้ความสำคัญทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของระบบดิจิทัล โดยคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก
Karsten Ottenberg ซีอีโอของBSH Hausgerate GmbH กล่าวว่า “หลังการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา และสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในปี 2561 สืบเนื่องจากตลาดเกิดความผันผวน อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกัน เรายังได้เห็นถึงการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในตลาดเอเชีย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรวมถึงความท้าทายต่าง ๆ ในธุรกิจค้าปลีก ทั้งนี้ BSH มีความพร้อมในสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่สูงขึ้นและการดำเนินการสู่การเป็นบริษัทฮาร์ดแวร์พลัส ที่มุ่งให้ความสำคัญการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ และจัดการกับปัญหาที่ถูกต้องสำหรับอนาคต
จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก ในปี 2561 ส่งผลกระทบต่อตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง แม้จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง BSH ยังมีความมุ่งมั่นและสามารถสร้างรายได้ในภูมิภาคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รายได้ของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3
เผยการลงทุนด้าน R&D และการลงทุนต่าง ๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ดี เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า
BSH ยังคงใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างหนักต่อเนื่องในปี2561โดยยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในระบบดิจิทัล ทั้งนี้นอกเหนือจากการใช้จ่ายร้อยละ 5.0ของรายได้จากการขาย ที่ลงทุนไปในด้านการวิจัยและพัฒนาแล้ว บริษัทยังมีการขยายการลงทุนต่อเนื่องเป็นจำนวนเงิน 619ล้านยูโร (ร้อยละ 4.6ของยอดขายทั้งหมด) อีกด้วย
BSH ยังลงทุนอย่างหนักในสถานที่ตั้งเดิมและโรงงานแห่งใหม่ต่อในปี 2561ซึ่งประกอบด้วยศูนย์เทคโนโลยีและโรงงานรวม 10 แห่งทั่วโลก โดยมีการเปิดโรงงานผลิตเครื่องล้างจานแห่งใหม่ในเมืองฉูโจว ประเทศจีน และได้เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องอบและเตาอบแห่งใหม่ อีกทั้งมีการขยายและจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยี และโรงงานผลิตต่าง ๆ ในอเมริกาเหนือ ยุโรปและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ 3แห่งในสหรัฐอเมริกา 1 แห่งในอินเดีย 2แห่งในโปแลนด์ และศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอิเล็คทรอนิกส์มีโรงงานอยู่ที่เมืองเทราน์รอยท์ ประเทศเยอรมนี
แพลตฟอร์มการต่อเชื่อมที่ได้มาตรฐานสำหรับเครื่องใช้ภายในบ้าน
ด้วยระบบ SystemMaster BSHได้พัฒนาเครื่องควบคุมระบบดิจิทัลที่ได้มาตรฐานสำหรับเครื่องใช้ที่ถูกเชื่อมต่อ ไมโครโปรเซสเซอร์แบบใหม่และสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่ได้มาตรฐานทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากบริการระบบดิจิทัลต่าง ๆ บนเครื่องใช้ที่มีการเชื่อมต่อ รวมถึงการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและโปรแกรมต่าง ๆ และทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ ในอนาคต เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้นวัตกรรมสำหรับเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้ในช่วงเวลาที่ใช้งานโดยไม่ติดขัด นอกจากนี้ยังได้มีการทดลองผลิตเครื่องล้างจานที่มีระบบSystemMasterในช่วงเดือนกันยายน2561ที่โรงงานเมืองดิลลิงเงน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเครื่องใช้ต่าง ๆ มีการติดตั้งแพลตฟอร์มใหม่นี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายในตลาดค้าปลีกในปี2563
Home Connect และหน่วยธุรกิจระบบดิจิทัลยังคงขยายตัว
หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2557BSH ได้รับประโยชน์จาก Home Connect – ระบบนิเวศดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของโลกสำหรับห้องครัวที่มีการเชื่อมต่อ และในปัจจุบันแพลตฟอร์มHome Connectมีให้บริการใน 34ประเทศและครอบคลุมถึงพันธมิตร37รายที่ให้บริการต่าง ๆ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสำหรับการเชื่อมต่อเครื่องใช้ในบ้าน นอกจากนี้ประเทศที่ให้บริการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและพันธมิตรอื่น ๆ มีกำหนดการที่จะเข้าร่วมมากขึ้นตลอดทั้งปี โดยผู้บริโภคจะสามารถเลือกช่องทางใดก็ได้ที่พวกเขาต้องการใช้เชื่อมต่อกับ Home Connect – ไม่ว่าจะผ่านแอปพลิเคชัน การควบคุมด้วยเสียง Facebook Messengerหรืออุปกรณ์สวมใส่ เช่น สมาร์ทวอทช์ Fitbitดังนั้น Home Connectจึงช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าสู่โลกแห่งบริการและเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อเร่งการปฏิรูปบริษัทให้เป็นบริษัทฮาร์ดแวร์ + BSH ได้จัดตั้งหน่วยธุรกิจระบบดิจิทัลขึ้นเมื่อปีก่อน และในปัจจุบัน หน่วยธุรกิจนี้ได้ดำเนินการติดตั้งโปรแกรม Future Home Accelerator ซึ่งBSH ได้เปิดตัวพร้อมกับ Techstars ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสตาร์ทอัพ และ BSH Venture Client Initiative BSH Startup Kitchen อีกด้วย และสิ่งสำคัญที่สุดอย่างแรกของโปรแกรมAccelerator คือการให้บริการด้านการระบุและพัฒนาบริการระบบดิจิทัลเชิงนวัตกรรมสำหรับผู้บริโภคกับสตาร์ทอัพ ที่ได้คัดเลือกไว้ เมื่อวันที่ 9พฤษภาคม 2562 ซึ่ง 10ทีมสุดท้ายที่เข้ารอบจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของตัวเองกับ BSHและนักลงทุนที่มีศักยภาพต่าง ๆ
Karsten Ottenberg CEO ของBSH กล่าวเพิ่มเติมว่า “ เรามั่นใจว่าเราจะได้รับประโยชน์จากความโปร่งใสและความใฝ่รู้ และการแลกเปลี่ยนความรู้ของสตารทอัพ ทั้งนี้ BSH Startup KitchenและโปรแกรมAccelerator ของเราจะช่วยสนับสนุนนวัตกรรมได้เป็นอย่างดี โดยมีเป้าหมายเพื่อทำความเข้าใจด้านความต้องการของผู้บริโภคที่ดีขึ้น และตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของเรา”
ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากการแถลงข่าวประจำปีในห้องข่าว BSH ที่: https://www.bsh-group.com/newsroom/press-releases นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาข้อมูลข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับทุกแง่มุมของ BSH ทั่วโลกได้ที่https://stories.bsh-group.com/th/
BSH Hausgerate GmbH ซึ่งมีรายได้จากการขายในปี 2018 ประมาณ 13.4 พันล้านยูโรและพนักงานประมาณ 61,000 คน เป็นผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องใช้ในบ้านระดับโลก โดยกลุ่มแบรนด์ของบริษัท ประกอบด้วยแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่รู้จักกันดี 13 รายการ เช่น BoschและSiemensรวมถึง Home Connectแบรนด์ระบบนิเวศและแบรนด์บริการ เช่น Kitchen Storiesซึ่งผลิตภัณฑ์ของ BSHผลิตจากโรงงาน 40 แห่งซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก และมีตัวแทนประมาณ 80 บริษัท ใน 50 ประเทศ