ไซม่อน โดมินิก (Simon Dominic) หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “ซัมดี” แร็ปเปอร์หนุ่มขี้เล่น จากค่าย เอโอเอ็มจี (AOMG) ผู้คร่ำหวอดในวงการเพลงฮิปฮอปเกาหลีมากว่า 10 ปี มีรางวัลการันตีมากมายได้ลัดฟ้ามาเปิดคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองครั้งแรกในเมืองไทย “อะบอฟ ออดินารี่ ไทยแลนด์ : ไซม่อน โดมินิก” (Above Ordinary Thailand:Simon Dominic) ซึ่งงานนี้ไม่ได้มาคนเดียว แต่ควงดีเจคนดัง เวกอน (Wegun) มาช่วยสร้างสีสันในคอนเสิร์ตที่เจ้าตัวบอกว่า ไม่เคยจัดเต็มขนาดนี้มาก่อนด้วย โดยมีผู้จัด อะชิ แอคทิเวชั่น จำกัด (A CHI ACTIVATION CO., LTD.) และ บริษัท ชาณ แอคทิเวชั่น จำกัด (CHAN ACTIVATION CO., LTD.) ช่วยการันตีความสนุกอีกแรง แต่ก่อนจะไปมันส์กันให้สุดในคอนเสิร์ต ไซม่อน ก็ได้มาพบปะกับแฟนคลับ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกันก่อนในงานแถลงข่าว ณ โรงแรม แกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ สุขขุมวิท 55
โดยมีดีเจ เจมิกซ์ เจริญ แซ่จู รับหน้าที่พิธีกร พร้อมด้วยล่ามเกาหลีมือหนึ่ง แจยอง มาทำหน้าที่ช่วยแปลภาษาให้ซึ่งทันทีที่เปิดตัวศิลปินทุกคนก็ฮากันกระจาย เพราะ ไซม่อน อารมณ์ดีมากถึงขั้นอาสายกเก้าอี้ขึ้นเวทีมาเอง! แค่เริ่มต้นก็รู้แล้วว่าการพูดคุยกันในวันนี้จะเฮฮาขนาดไหน หลังแนะนำตัว “สวัสดีครับ ผม ไซม่อน โดมินิก ครับ…ผมเพิ่งมาจากเกาหลีเลยนะครับ ทานข้าวเหนียวมะม่วงไปแล้ว รักข้าวเหนียวมะม่วงมากๆเลย พรุ่งนี้ก็จะทานอีกครับ” คุยจบ พิธีกรยังสงสัยไม่หายว่าทำไมเมื่อกี้ต้องยกเก้าอี้ออกมาเองด้วย ไซม่อน ก็ให้เหตุผลว่า “เพราะตอนนี้ผมรู้สึกดีมาก ผมตื่นเต้นมากๆ ก็เลยอยากโชว์ให้เห็นว่าผมมีความสุขขนาดนี้ จนถือเก้าอี้ออกมาเอง… ที่ของเรา เราต้องรู้ แล้วก็เก็บเองได้ไงครับ!” ทักทายกันพอหอมปากหอมคอไปแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงสัมภาษณ์กันเลย
พิธีกร : นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาทักทายแฟนๆ ชาวไทยแบบเดี่ยวๆ ใช่มั้ยครับ?
ไซม่อน : มาคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกเลยครับ
พิธีกร : ความรู้สึกตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
ไซม่อน : บอกตรงๆ เลยว่า ผมไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาประมาณ 2 วันแล้ว ก็รู้สึกเหนื่อย แต่พอขึ้นเครื่องบินที่จะมากรุงเทพฯเนี่ย ก็หายเหนื่อยไปเลย เพราะผมรักกรุงเทพฯมากๆ
พิธีกร : นี่แสดงว่าคุณพร้อมมากๆ สำหรับคอนเสิร์ตในวันพรุ่งนี้
ไซม่อน : พร้อมมากเลย อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ
พิธีกร : งั้นก่อนจะถึงพรุ่งนี้ ไซม่อน โดมินิก จะต้องบอกเราสักหน่อยว่า สำหรับคอนเซ็ปต์ “อะบอฟ ออดินารี่ ไทยแลนด์ : ไซม่อน โดมินิก” ที่จะมีความมันมากกว่าธรรมดาเป็นยังไง?
ไซม่อน : ถ้าทุกคนรู้จัก เอโอเอ็มจี ก็น่าจะรู้จัก “อะบอฟ ออดินารี่ ไทยแลนด์ : ไซม่อน โดมินิก” เพราะว่าคำว่า AOMG ย่อมาจาก ABOVE ORDINARY ชื่อคอนเสิร์ตมันก็เลยเกิดความเป็น ABOVE ORDINARY แล้วอยู่ที่ประเทศไทย ก็เลยมี THAILAND เข้ามาด้วย ส่วนคอนเซ็ปต์เหรอ? ก็ไม่มีอะไรมาก ผมนี่แหละ คือ คอนเซ็ปต์ (แฟนคลับกรี๊ดชอบใจ)
พิธีกร : วันนี้มาคนเดียวก็จริง แต่ว่าพรุ่งนี้ไม่ได้อยู่บนเวทีคนเดียว เพราะชวนดีเจเพื่อนซี้มาด้วย ดีเจ เวกอน (Wegun)
ไซม่อน : จะบอกว่า ABOVE ORDINARY ก็คือ ดีเจเวกอน ใน AOMG ก็คือเป็นครอบครัวเดียวกัน
พิธีกร : ทำไมต้องเป็น เวกอน ด้วย?
ไซม่อน : ผมตกใจมากเลยนะ ที่ที่เมืองไทยมีคนรักดีเจ เวกอน เยอะมาก พอมาถึงแล้ว เขาได้ของขวัญเยอะมาก มีรูปที่ติดด้วย ขอบคุณที่รักดีเจ เวกอน มากๆ เลยนะครับ
พิธีกร : จริงๆ แล้ว คุณก็มีเพื่อนเยอะมากเลยในส่วนของวงการฮิปฮอป ทำไมต้องเป็น เวกอน ครับ ในวันพรุ่งนี้?
ไซม่อน : อยากที่บอกไปเมื่อกี้ ดีเจ เวกอน ก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็คืออยู่ใน AOMG ด้วยกัน คือถ้ามางานด้วยกัน ยังไงก็ต้องพาเค้ามาอยู่แล้ว อีกอย่างคือผมชอบอะไรที่มันดีที่สุด แล้วก็เจ๋งที่สุด จะบอกว่าดีเจ เวกอน คือคนที่แบบ เดอะ เบสท์ แล้ว ผมก็เลยพาเค้ามา
พิธีกร : เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้สนุกแน่นอนไม่ต้องห่วง?
ไซม่อน : ก็น่าจะประมาณนั้นมั้งครับ ยังไงก็ต้องสนุกอยู่แล้ว ก็อย่างที่บอกเมื่อกี้ ดีเจ เวกอน ของเราก็คือ เดอะ เบสท์ คนที่เตรียมงานให้ก็คือดีที่สุดมากๆ อยู่แล้ว แล้วคนจัดก็คือ อะชิ ยังไงก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นเดอะ เบสท์ อยู่แล้ว คนที่มาดูก็ เดอะ เบสท์ คือ เบสท์ทุกอย่างเลย ยังไงก็ต้องดีอ่ะครับ แล้วคนที่มาดูงานของผม บอกได้เลยว่าแค่มาดูก็ เดอะ เบสท์ แล้ว
พิธีกร : พรุ่งนี้สนุกแน่นอนครับ เจอผู้ชายคนนี้ อารมณ์ดีขนาดนี้ เรามาพูดถึงเรื่องทำเพลงบ้างดีกว่า เพราะคุณทำเพลงเอง อะไรเองมาตลอดเลย แรงบันดาลใจในการทำเพลงของคุณมาจากไหน?
ไซม่อน : ทุกประสบการณ์ของผม เป็นแรงบันดาลใจของผมได้ เช่น อะไรก็ได้ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ที่กลับไปแล้วจำได้ หรือในชีวิตประจำวันของผม ประสบการณ์ที่ผมเจอ เรื่องเล็กๆน้อยๆ นี่แหละที่เป็นแรงบันดาลใจสำหรับผม
พิธีกร : ปกติแล้วเวลาแฟนๆ เจอคุณ ก็จะได้เห็นความคูล หรือว่า ความฮิป ความแรงๆ ในสไตล์ของไซม่อน โดมินิก แต่ทีนี้เวลาคุณไปออกรายการทีวีต่างๆ คุณจะมีความอารมณ์ดี มีมุกตลก ไม่ว่าจะเป็นรายการ Show Me The Money Season 5 , I Live Alone หรือว่าล่าสุดที่คุณไ/ปก็คือ Sign Here เป็นยังไงบ้าง?
ไซม่อน : ถ้าลองกลับไปคิดดูก็ไม่ได้มีรายการที่ผมได้ไปออกมากมายนัก แต่ว่าต้องบอกตรงๆ ว่าแต่ละรายการที่ผมตัดสินใจไปออก เพราะคิดว่า อันนี้มันใช่ อะไรอย่างนี้ เพราะว่าผมอยากโชว์หลายๆ มุมของผม เพราะว่าแฟนๆ ของผมก็รัก นอกจากที่เห็นผมทำเพลง หรือคอนเสิร์ตอะไรแบบนี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ผมอยากออกรายการทีวีบ่อยๆ เห็นในโทรทัศน์บ่อยๆ เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ เพราะว่าการที่ผมทำงานเพลง มีอัลบั้มออกมา เล่นคอนเสิร์ต คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะไม่ได้เห็นผม ถูกมั้ยครับ? แต่ถ้าผมมีโอกาสได้มาออกรายการโทรทัศน์แบบนี้ คุณพ่อคุณแม่เห็นผมทุกๆ อาทิตย์ ผมเห็นคุณพ่อคุณแม่ชอบ ผมก็รู้สึกปลื้มและชอบมากตามไปด้วย อย่างรายการที่ชื่อ Sign Here ก็อยากให้ทุกคนติดตามด้วยนะครับ
พิธีกร : มีรายการไหนอีกมั้ยครับ ที่คุณอยากไปออก แต่ยังไม่ได้ไปออก? แฟนๆ จะได้รอติดตาม เผื่อว่ามีโอกาสได้ไปออก
ไซม่อน : ผมอยากถามว่า รายการเกาหลีที่ดังที่สุดในประเทศไทย คือรายการอะไรเหรอครับ? (แฟนคลับตะโกนตอบว่า Sign Here เรียกเสียงฮาลั่น) แต่เพิ่งเริ่มเมื่อวานเองนะ… เอาอย่างนี้ละกัน ถ้ามีรายการไหนที่อยากให้ผมไปออก อยากเจอผมในรายการนี้จัง ก็แนะนำผมมาได้ และถ้าผมรู้สึกว่า อันนี้มันใช่ ผมจะลองดู
พิธีกร : คุณพูดแล้วนะครับ สัญญาแล้วนะ
ไซม่อน : และ ถ้ามีรายการไหนที่เป็นรายการของไทย ถ่ายทำในประเทศไทย อยากเชิญผมมา ก็ให้รีบบอกผมเลยนะครับ (ทุกคนพร้อมใจกันปรบมือดังๆ ให้ไซม่อน )
พิธีกร : ตอนที่คุณเชิญชวนแฟนๆ ให้มาดูคอนเสิร์ต ได้ยินว่าฝึกภาษาไทยมาหลายประโยคมาก ได้เตรียมอะไรมาให้เราบ้าง?
ไซม่อน : ผมจำได้ว่าคอนเสิร์ตครั้งก่อนที่ผมมา เม้นท์ที่ผมพูด ครึ่งหนึ่งเป็นภาษาไทย ครึ่งหนึ่งเป็นภาษาเกาหลี ผมจำภาษาไทยเพื่อที่จะมาพูดกับแฟนๆ ในคอนเสิร์ต เพราะว่าครั้งนั้นมีเวลาให้ผมไปจำ ไปเรียน ไปฝึกภาษาไทยมาค่อนข้างเยอะ แต่ครั้งนี้บอกตรงๆ ว่าก่อนที่จะมางานยุ่งมากเลย เพลงก็ปล่อย อัลบั้มก็ปล่อย อย่างที่บอกคือไม่ได้นอนมา 2 วันด้วย ครั้งนี้ก็เลยเสียดายนิดหนึ่งที่ไม่ได้จำภาษาไทยมาเยอะขนาดนั้น แต่ก็เตรียมมาครับ พูดได้เลยนะ “พี่ดุนะ หนูไหวเหรอ?” (ทุกคนกรี๊ดแทบสิ้นสติ) “พี่ดุนะ หนูไหวเหรอ?” (พูดย้ำอีกรอบ แฟนๆ จึงตอบว่า “ไหว”) ตอนแรกผมเข้าใจว่าคำนี้แปลว่าให้ช่วยติดตามงานของผมนะ…แต ไหงกลายเป็น โอป้าน่ากลัวไปได้ล่ะครับ? (แต่พอแฟนๆ บอกว่า “ไหว” ไซม่อนโอป้า ก็เลยโอเค~) ยังมีอีกนะครับ คำนี้เป็นคำที่อยากให้ทุกคนจำเอาไว้ เพราะทุกครั้งที่ผมมีเพลงใหม่ หรือ อัลบั้มใหม่ ไม่รู้ถูกรึเปล่านะครับ “ของมันต้องมี” (คราวนี้ฮาหนักกว่าเก่า เพราะเจ้าตัวพูดไทยชัดมาก)
พิธีกร : นี่ไม่อยากเชื่อเลยว่าไม่ได้นอนมา 2 วัน?
ไซม่อน : ก็บอกแล้วไงครับว่าถึงไม่ได้นอนก็มีความสุขขนาดนี้
พิธีกร : โห พูดไม่ผิดเลยสักคำ เก่งมากๆ
ไซม่อน : ผมว่าผมเหมาะกับประเทศไทยมากเลยนะ
พิธีกร : คอนเสิร์ต ABOVE ORDINARY THAILAND ครั้งนี้ มีอะไรพิเศษให้กับแฟนๆ บ้าง?
ไซม่อน : ครั้งก่อนประมาณปีหนึ่งแล้ว ที่ผมเคยมาเปิดคอนเสิร์ตกับ AOMG ตอนนั้นทุกคนก็น่าจะรู้ว่าเวลาที่ผมได้โชว์เดี่ยวบนเวทีมีน้อย แต่ครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวของผมทั้งหมดเลย เวลาที่ผมจะได้ใกล้ชิดกับแฟนคลับก็จะมากขึ้น และอย่างที่บอกไป เดอะ เบสท์ ก็คือ ดีเจ เวกอน อยู่กับเราแล้ว ก็จะได้ดูว่าเขาเป็นคนเดอะ เบสท์ยังไง อันนี้ผมได้บอกกับทางผู้จัดและทีมงานแล้วว่า ผมอยากให้บรรยากาศมันใกล้ชิดมากๆ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้วันคอนเสิร์ตแล้ว เราจะได้ใกล้ชิดกันมากแค่ไหน คนที่มาคอนเสิร์ตทุกคนก็น่าจะเป็นคนที่รักผม ก็เลยมาดูผม ผมก็เลยอยากจะทำทุกอย่างที่ทุกคนอยากดู และอยากมอบให้ไปครับ
พิธีกร : พรุ่งนี้สนุกกันแน่นอน
ไซม่อน : แล้วก็มี 2 เพลงใหม่… (ขณะสัมภาษณ์อยู่ จู่ๆ ไซม่อน ก็ทักแจยองขึ้น) นั่นเหงื่อเหรอครับ ผมนึกว่าเป็นน้ำตา (แล้วเรียกหาทิชชู่มาช่วยซับเหงื่อให้ล่ามด้วยตัวเอง งานนี้ทำเอาล่ามคนเก่งของเรา เสียอาการ ไปพักใหญ่ กว่าจะกลับมาทำหน้าที่ได้ตามปกติ ช็อตนี้เรียกทั้งเสียงหัวเราะ และ เสียงกรี๊ดจากทุกคนในงานแถลงข่าวได้อย่างมาก)
พิธีกร : แจยองจำได้มั้ยที่เค้าพูดไปเมื่อกี้? (พิธีกรถาม)
ไซม่อน : มี 2 เพลงใหม่ที่เพิ่งปล่อยออกมา ยังไม่เคยไปแสดงที่ต่างประเทศมาก่อน พรุ่งนื้ที่ไทยจะเป็นที่แรกที่ได้มาเล่นให้ดูในต่างประเทศครับ
จบจากการพูดคุยที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ก็ถึงเวลาถ่ายภาพร่วมกับผู้จัดCEO คุณชลทิชา ศรีทอง จาก อะชิ แอคทิเวชั่น จำกัด (A CHI ACTIVATION CO., LTD.) และ บริษัท ชาณ แอคทิเวชั่น จำกัด (CHAN ACTIVATION CO., LTD.) ขึ้นมอบดอกไม้ พร้อมด้วยนักร้อง นักแสดงหนุ่มชื่อดัง คุณแกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ , คุณสอง สรวิศ สืบสําราญ และคุณอัญชนา ทองใหญ่ ณ อยุธยา CEO บริษัท OGME Entertainment จำกัด ได้ขึ้นร่วมถ่ายภาพกับ ไซม่อน โดมินิก ด้วย และก่อนจากกันในวันนี้ หนุ่มอารมณ์ดีขอทิ้งท้ายไว้ว่า “วันนี้พอเสร็จจากตรงนี้แล้ว ผมจะขึ้นไปนอนให้เต็มอิ่ม เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้อารมณ์ดี แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะครับทุกคน”