เหนือสิ่งอื่นใดต้องออกตัวก่อนว่า รู้สึกกระดี๊กระด๊ามากเมื่อรู้ว่าจะได้นั่งเครื่องบินไปเที่ยวอีสานใต้อย่าง จังหวัดบุรีรัมย์ และ จังหวัดสุรินทร์ เพราะห่างหายจากการนั่งเครื่องบินไปนานมาก…(กอไก่ล้านตัว) เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 นั่นแหล่ะ พอทาง บริษัท สานฟ้า จำกัด ผู้ผลิตรายการ สมุทรโคจร ยกหูกรี๊งกร๊างชวนไปทริปนี้ เราก็ไม่รอช้าตกปากรับคำทันที
สำหรับทริปนี้ตารางการเที่ยว 3 วัน 2 คืน ของเราชาวคณะก็แน่นเช่นเคยตามแบบฉบับสานฟ้า ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ดินแดนแห่งอารยธรรม ในวันแรกของการเดินทาง ก็เริ่มต้นด้วย วัดระหาน (เกาะแก้วธุดงค์สถาน) , สนามฟุตบอลทีม Buriram united , ชุมชนบ้านเจริญสุข และปิดท้ายด้วย อุทยานประวัติศาสตร์หินเขาพนมรุ้ง จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปนอนค้างคืนที่จังหวัดสุรินทร์ ถิ่นช้างใหญ่
หลังจากที่ทานอาหารเชเาที่โรงแรมที่พักเรียบร้อยชาวคณะก็เดินทางไปยังจุดหมายแรกของวันที่ 2 ก็คือ วนอุทยานพนมสวาย เพื่อไปตีระฆัง 1,080 ใบ จากนั้นก็เดินทางต่อไปยัง ชุมชนตำบลสวาย ก่อนจะปิดท้ายกันที่ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ชมความน่ารัก และความสามารถของช้างกัน ก่อนจะวิ่นหนีฝนห่าใหญ่กันอุตลุด เมื่อนั่งรถกลับมายังบุรีรัมย์
และวันสุดท้ายของทริปนี้ก็มาถึง พอทานอาหารเช้าแบบเต็มคร่าบแล้ว ก็เช็คเอ๊าท์เอากระเป๋าขึ้นรถไผชมหมู่มวลดอกไม้นานๆพันธุ์ที่ อุทยานไม้ดอกเพ ลา เพลิน หลังจากถ่ายรูปดอกไม้กันจนหนำใจแล้วก็มูฟตัวไปต่อกันที่ วนอุทยานเขากระโดง ดูปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว หินลอยน้ำ เล่นสิไหลเด้อ กันพอหอบปากหอมคอ และ ปิดท้ายก่อนขึ้นเครื่องด้วยการแวะจิบเครื่องดื่ม พร้อมถ่ายรูปกันเก๋ๆที่ The Tower Cafe & Hango
เรียกว่าจบทริปอีสานแซ่บนัวอย่างสวยงาม ถ่ายรูปกันจนเมมโมรี่เต็ม รูปล้นเครื่องไปเล๊ยยยย