การท่องเที่ยวฮ่องกง (The Hong Kong Tourism Board: HKTB) และมิชลิน ไกด์ พร้อมใจนำเสนอเรื่องราวสุดพิเศษจากสมุดบันทึกเคล็ดลับของเชฟฮ่องกง หรือ Hong Kong Chefs’ Playbook ในรูปแบบของซีรีส์สี่ตอนที่จะบอกเล่าเรื่องราวของเชฟแนวหน้าระดับมิชลินสตาร์จากร้านอาหารในฮ่องกง เมืองสวรรค์ของนักชิมแห่งนี้
ซีรีส์ Hong Kong Chefs’ Playbook จัดทำมาเพื่อเอาใจประสาทสัมผัสอย่างเต็มที่ โดยจะพาคุณตามติดชีวิตแบบเอ็กซ์คลูซีฟไปกับเชฟวิกกี้ เลา เชฟเชน ออสบอร์น เชฟวิกกี้ เชง และเจ้าของร้านอาหารอย่างแดนนี่ ยิป ในการตะลุยย่านเหยามาเต่ย หว่องไทซิน ไท่โอ และอาเบอร์ดีน พร้อมแบ่งปันเคล็ดลับการเลือกสรรวัตถุดิบจากท้องถิ่นที่ดีที่สุด สดใหม่ที่สุด และได้รับอิทธิพลจากความงดงามของมหานครระดับโลกแห่งนี้
“ในฐานะศูนย์กลางแห่งการทำอาหารของเอเชีย ฮ่องกงมีร้านอาหารที่การันตีโดยมิชลินกว่า 70 แห่ง แม้ว่าตอนนี้พรมแดนจะยังคงปิดอยู่ แต่เราก็หวังว่าเราจะสามารถทำให้ผู้คนทั่วโลกได้ใกล้ชิดฮ่องกงมากยิ่งขึ้นผ่านเรื่องราวของเชฟ
มิชลินระดับแนวหน้าของเรา อาหารยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักเดินทางทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คำนึงถึงเมื่อต้องเลือกจุดหมายปลายทาง เราจึงรู้สึกตื่นเต้นและมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้จับมือกับมิชลิน ไกด์ ในการถ่ายทอดท่วงทำนองของย่านต่างๆ ทั่วฮ่องกงผ่านเชฟผู้มากความสามารถ ที่นำรสชาติท้องถิ่นมาตีความและถ่ายทอดในมุมที่ต่างออกไป รวมถึงเรื่องเล่าว่าสถานที่ที่พวกเขาชื่นชอบในฮ่องกงได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับการรังสรรค์มื้ออาหารของพวกเขาอย่างไร”เรย์มอนด์ ชาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวฮ่องกงประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
นิโคลาส อาชาร์ด กรรมการผู้จัดการกลุ่มมิชลินประจำภาคพื้นเอเชีย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโรเบิร์ต ปาร์คเกอร์ ไวน์ แอดโวเคท กล่าวว่า “เมื่อมิชลิน ไกด์ เริ่มขยายตัวจากยุโรปเข้าสู่เอเชีย ฮ่องกงคือหนึ่งในเมืองอันดับแรกๆ ที่มิชลินเลือก เนื่องจากผู้คนให้การยอมรับว่ามีอาหารรสเลิศ นับตั้งแต่ปี 2552 มิชลินและฮ่องกงได้เดินหน้าสร้างความสำเร็จร่วมกันมามากมาย ในฐานะที่เป็นหนึ่งในศูนย์กลางแห่งการทำอาหารที่มีความแปลกใหม่และหลากหลายที่สุดในเอเชีย ฮ่องกงถือเป็นแหล่งอาหารกวางตุ้งแบบต้นตำรับและอาหารจากทั่วโลกชั้นเยี่ยมที่รังสรรค์โดย
เชฟท้องถิ่นและเชฟนานาชาติผู้มากความสามารถ เราตั้งใจจะถ่ายทอดรสชาติจากเชฟมือทองและเมนูที่หลากหลายทั่วเมือง เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสกับรสชาติที่พวกเขาจะได้ดื่มด่ำเมื่อได้มาเยือนฮ่องกงในอนาคต”
เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาและความหลากหลายในการเนรมิตรสชาติแบบต้นตำรับของฮ่องกงแล้ว เชฟแต่ละท่านจะบอกเล่าเรื่องราวของตนโดยอิงจากประสบการณ์ที่สั่งสมและความชำนาญในการทำอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ ในระหว่างที่พวกเขาพาเดินชมย่านต่างๆ เหล่านี้ เชฟจะเล่าถึงแรงบันดาลใจ เคล็ดลับในการทำอาหาร และเผยของดีประจำย่านที่คนยังไม่รู้ รวมถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพวกเขากับสถานที่ และเปิดประสบการณ์สถานที่ใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กัน
เราได้ทำการเผยแพร่คลิปแรกในซีรีส์เรื่องราวสุดพิเศษของเชฟฮ่องกงในวันนี้ ซึ่งจะพาคุณไปทัวร์ย่านวัตถุดิบอย่างเหยามาเต่ยกับเชฟวิกกี้ เลา
เชฟวิกกี้ เลา จากร้าน Tate Dining Room | เรื่องราวสุดพิเศษของเชฟฮ่องกง Hong Kong Chefs’ Playbook: เดินเที่ยวย่านเหยามาเต่ยกับวิกกี้ เลา | วันเผยแพร่วิดีโอ: 21 กันยายน
วิกกี้ เลา เชฟหญิงคนแรกและหนึ่งเดียวของเอเชียจากร้านมิชลินระดับสองดาว Tate Dining Room ได้ไปฝึกปรือฝีมือในต่างประเทศ และเดินทางกลับมาที่ฮ่องกงเพื่อสานฝันในสายงานการทำอาหาร เชฟวิกกี้จะพาผู้ชมไปเที่ยวชมย่านเหยามาเต่ย ซึ่งเป็นย่านสำคัญในแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวย่านเกาลูนตะวันตก ที่ทางการท่องเที่ยวฮ่องกงเพิ่งเปิดตัวไป โดยมุ่งปลุกเร้าความสนใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่แท้จริงของเกาลูนตะวันตกนี้
ตามการบอกเล่าของเชฟวิกกี้ เหยามาเต่ยเป็นอีกฟากหนึ่งของเกาะฮ่องกงที่มีเชฟมาเยี่ยมเยียนกันเป็นประจำ “ที่แห่งนี้คือการบรรจบของความเก่าและความใหม่ มีอะไรน่าสนใจให้เราค้นหาอยู่มากมาย โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังมองหาสิ่งต่างๆ ที่เป็นแบบฉบับของฮ่องกงอย่างแท้จริง ที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักการทำอาหาร เพราะเราจะสามารถหาซื้ออุปกรณ์ ส่วนผสม และอาหารรสชาติดีนับไม่ถ้วน และนอกจากนี้แล้ว ยังมีของแท้ต้นตำรับมากมายให้เลือกสรร อย่างเช่น ตลาดผลไม้เหยามาเต่ย (หรือที่รู้จักในชื่อ Gwo Lan) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของฮ่องกงที่มีชื่อเสียง จะมีผลไม้ที่บางทีก็ไม่สามารถหาทานได้ทั่วไปวางขายเสมอ การระบาดใหญ่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการนำเข้าสินค้า แต่ฉันมองว่า นี่กลับเป็นโอกาสที่เราจะได้ค้นพบและลองใช้พืชผลในท้องถิ่นในการรังสรรค์มื้ออาหารของเรามากขึ้น ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้พาทุกท่านไปสัมผัสกับด้านนี้ของเหยามาเต่ย โดยเฉพาะจากในมุมมองของเชฟ!”
ก่อนหน้านี้ ได้มีการใช้ระบบการให้ดาวร้านของมิชลินแก่ร้านอาหารชั้นนำในยุโรปเท่านั้น โดยในเวลาต่อมา มีการขยายระบบนี้ไปทั่วโลก เมื่อศาสตร์แห่งการทำอาหารเติบโตไปพร้อมกับการค้นพบผู้มีพรสวรรค์ในหลากหลายวัฒนธรรมและรูปแบบอาหาร มิชลิน ไกด์ เปิดตัวในฮ่องกงครั้งแรกเมื่อปี 2552 โดยได้มอบดาวรวม 31 ดวงให้แก่ร้านอาหารจำนวน 22 แห่ง ปัจจุบันนี้ ฮ่องกงมีร้านอาหารถึง 69 แห่ง ที่การันตีด้วยดาวมิชลินรวมแล้วกว่า 95 ดวง
ในขณะที่โลกยังคงต้องต่อสู้ฝ่าฝันและเอาชนะการระบาดใหญ่ของโควิด-19 มาตรการจำกัดการเดินทางก็ยังขยายเวลาออกไปไม่มีกำหนด การท่องเที่ยวฮ่องกงและมิชลินจึงตั้งใจที่จะจุดประกายแรงบันดาลใจในการทำอาหาร และทำให้ผู้ชมทั่วโลกสามารถดื่มด่ำไปกับการเที่ยวชมย่านต่างๆ และบอกเล่าถึงสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจที่รอให้พวกเขาไปเยือนที่ฮ่องกง
จะมีการเผยแพร่เรื่องราวสุดพิเศษของเชฟฮ่องกงในซีรีส์ Hong Kong Chefs’ Playbook แต่ละตอนบนช่องทางโซเชียลมีเดียของการท่องเที่ยวฮ่องกงและมิชลิน ไกด์ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป โปรดติดตาม @DiscoverHongKong และ @MichelinGuideWorldwide บน Facebook เพื่อเปิดประสบการณ์การเดินทางและตอบโจทย์ความอยากอาหารกันอย่างจุใจ
อ่านเรื่องราวด้านล่างเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเชฟผู้มากความสามารถแห่ง Hong Kong Chefs’ Playbook
เชฟเชน ออสบอร์น จากร้าน Arcane | เรื่องราวสุดพิเศษของเชฟฮ่องกง Hong Kong Chefs’ Playbook: เยือนย่านหว่องไทซินกับเชน ออสบอร์น | วันเผยแพร่วิดีโอ: 28 กันยายน
ผู้ที่จะพาผู้ชมเดินเที่ยวย่านหว่องไทซิน คือ เชน ออสบอร์น เชฟชาวออสเตรเลียชื่อเสียงระดับโลก ผู้ได้รับดาว
มิชลินครั้งแรกในลอนดอน และได้ย้ายมาที่ฮ่องกงเพื่อก่อตั้งร้าน Arcane ที่การันตีรสชาติด้วยมิชลินระดับหนึ่งดาว เขาเล่าว่า การสรรหาวัตถุดิบจากท้องถิ่นนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับตัวเขาเองและทีมงานของเขาที่ Arcane “นอกจากเราจะได้วัตถุดิบที่สดใหม่ที่สุดแล้ว เรายังได้ช่วยสนับสนุนชุมชนการเกษตรในท้องถิ่นอีกด้วย”
ในฐานะชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงเป็นหลัก เชนได้ค้นพบสถานที่ใหม่ๆ ในฮ่องกงอยู่เสมอ เมื่อได้ไปเยือนสำนักชีฉีหลินเป็นครั้งแรกนั้น เขากล่าวว่า ฮ่องกงเป็นจุดหมายปลายทางที่มีทั้งประสบการณ์ความเป็นเมืองที่พลุกพล่าน และธรรมชาติอันเงียบสงบ “ผมรู้สึกทึ่งกับสำนักชีฉีหลินเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของความสงบเงียบ ทั้งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก”
เชฟวิกกี้ เชง จากร้าน VEA | เรื่องราวสุดพิเศษของเชฟฮ่องกง Hong Kong Chefs’ Playbook: เยือนย่านไท่โอกับวิกกี้ เชง | วันที่เผยแพร่วิดีโอ: 5 ตุลาคม
เชฟวิกกี้ เชง แห่ง VEA ร้านระดับมิชลินหนึ่งดาว คือเชฟที่มีชื่อเสียงด้านอาหารจีน-ฝรั่งเศสอันเป็นเอกลักษณ์ เขาได้เดินทางกลับมายังฮ่องกงเพื่อสานฝันการเป็นเชฟของเขาโดยเฉพาะ ในซีรีส์นี้ เชฟวิกกี้ เชง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ฮ่องกงจะได้เพลิดเพลินไปกับทั้งอาหารชั้นเยี่ยมที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบสตรีทฟู้ดหรืออาหารตามภัตตาคารระดับมิชลิน อีกทั้งยังได้อิ่มเอมไปกับความงามทางภูมิทัศน์ของเมืองแห่งนี้อีกด้วย
เชฟวิกกี้เห็นด้วยกับความรู้สึกของเชฟเชน ออสบอร์น “สิ่งหนึ่งที่สวยงามที่สุดที่ผมชื่นชอบเกี่ยวกับฮ่องกงมากจริงๆ ก็คือ นาทีหนึ่ง คุณอาจจะอยู่ใจกลางเมืองในย่านการเงินที่พลุกพล่าน แต่ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา คุณอาจจะไปอยู่กลางป่า หรือกำลังปีนเขาท่ามกลางธรรมชาติสุดลูกหูลูกตา นี่คือความงดงามตามแบบฉบับของฮ่องกงอย่างแท้จริง เราเป็นเหมือนศูนย์กลางของเมืองใหญ่ๆ และประเทศอื่นๆ รอบตัวเรา ผมหวังเป็นอย่างมากว่า ผู้รับชมจะได้เห็นสิ่งเดียวกับที่ผมเห็น ผ่านมุมมองของคนท้องถิ่นที่เกิดที่นี่ อาศัยอยู่ต่างประเทศและกลับมา สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับฮ่องกง สถานที่ที่ผมชื่นชอบ สิ่งที่ผมชอบซื้อ และส่วนผสมที่ผมชอบนำมาใช้ในการปรุงอาหาร”
แดนนี่ ยิป จากร้าน The Chairman | เรื่องราวสุดพิเศษของเชฟฮ่องกง Hong Kong Chefs’ Playbook: เที่ยวย่านอาเบอร์ดีนกับแดนนี่ ยิป | วันเผยแพร่วิดีโอ: 12 ตุลาคม
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด แดนนี่ ยิป เจ้าของภัตตาคารมิชลินระดับหนึ่งดาว The Chairman ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากการตีความอาหารกวางตุ้งออกมาในรูปแบบใหม่โดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น ในครั้งนี้ เขาจะมาพาผู้ชมเดินท่องไปในย่านอาเบอร์ดีน แดนนี่ชอบเดินเท้าเที่ยวรอบเมืองไปตามย่านต่างๆ ตามประสาคนฮ่องกงแท้ๆ “เมื่อเราเดินสำรวจไปตามที่นั่นที่นี่ทั่วฮ่องกง เราจะสัมผัสได้ถึงจังหวะความเป็นไปของเมือง และเห็นถึงของดีที่ซ่อนอยู่ตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ สิ่งเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นอัญมณีอันล้ำค่าและมักจะเป็นสิ่งที่น่าจดจำที่สุด นี่ก็คือเหตุผลที่เราจะพยายามเลือกใช้วัตถุดิบที่มาจากท้องถิ่น สินค้าจากร้านขายเครื่องปรุงรสในพื้นที่ และอาหารทะเลจากชาวประมงในเมืองแห่งนี้ให้มากที่สุด”
เจ้าของร้านอาหารที่เกิด โต และยังอาศัยอยู่ในท้องที่อย่างแดนนี่ได้เห็นเชฟรุ่นใหม่มากความสามารถจำนวนมากมายปรากฏตัวขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ล้วนสร้างความประทับใจให้ผู้รับประทานอาหารด้วยแนวคิดและรสชาติใหม่ๆ “ในที่สุด การเป็นเชฟก็ถือเป็นเรื่องเจ๋งๆ ในเมืองไปแล้ว พวกเขาทำงานสอดประสานไปกับพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก เข้าสังคมเก่ง และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง การทำอาหารในฮ่องกงไม่เคยมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยพลังขนาดนี้มาก่อน ผมหวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ทั้งในเรื่องของความหลากหลาย ความเฉพาะตัว ความคิดสร้างสรรค์ และความน่าสนใจ”
เจาะลึกเรื่องราวสุดพิเศษของเชฟฮ่องกง Hong Kong Chefs’ Playbook: เดินเที่ยวย่านเหยามาเต่ยกับวิกกี้ เลา(ร้าน Tate Dining Room)
เชฟวิกกี้ เลา และเส้นทางแห่งการทำอาหารใน “ย่านเหยามาเต่ย”
อาหารที่มีคุณภาพจะต้องรังสรรค์มาจากส่วนผสมที่มีคุณภาพ คือปัจจัยที่เชฟวิกกี้ เลา ทราบดี เนื่องจากร้าน Tate Dining Room ระดับมิชลินสตาร์ของเธอเองก็มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการดัดแปลงวัตถุดิบตามฤดูกาลอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งชูเอกลักษณ์รสชาติของอาหารฮ่องกงได้อย่างไม่ซ้ำใคร ผู้ที่เป็นทั้งเชฟและเจ้าของร้าน อย่าง วิกกี้ เลา มีชื่อจากฝีมือการทำอาหารที่ร้อยเรียงรสชาติของอาหารจีนกับฝรั่งเศส และเชื่อมความดั้งเดิมกับยุคสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว จึงถือเป็นไอคอนแห่งวงการทำอาหารฮ่องกง
ในตอนแรกของซีรีส์ “เรื่องราวสุดพิเศษของเชฟฮ่องกง หรือ Hong Kong Chefs’ Playbook ” ทั้งสี่ตอน เชฟวิกกี้ พร้อมด้วยพิธีกร เด็บบี้ หว่อง จะพาเราเดินเที่ยวย่านเหยามาเต่ย ย่านประวัติศาสตร์ที่คึกคักใจกลางเกาลูนตะวันตก และยังเป็นย่านที่เหมาะจะปลีกตัวจากความวุ่นวายสำหรับผู้มีใจรักอยากเป็นเชฟทุกคน โดยไกด์ทั้งสองจะพาผู้ชมไปค้นพบกับของดีที่ซ่อนอยู่ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นเหมือนหัวใจสำคัญของเชฟและร้านอาหารมากมายในย่านเหยามาเต่ย
ก่อนที่จะเริ่มทำอาหาร เราต้องเตรียม “อุปกรณ์” กันก่อน
“ถนนเซี่ยงไฮ้” ได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์ของนักทำอาหาร เนื่องจากเต็มไปด้วยร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหม้อ กระทะ หรือเครื่องครัวเกือบทั้งหมด โดยถนนสายนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของคุณภาพและราคาที่เอื้อมถึง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการทำอาหารเลยก็ว่าได้
เมื่อเดินไปตามถนน เราจะพบกับร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับการปรุงอาหารประเภทต่างๆ นับตั้งแต่เครื่องมือไม้ทั้งหมดไปจนถึงอุปกรณ์สแตนเลส ที่แห่งนี้มีร้านสำหรับเชฟทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเชฟติ่มซำหรือเชฟทำขนม นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ชั้นสูงที่ใช้เฉพาะสำหรับการผสม ปั่น ทอด และเครื่องทุ่นแรงอื่นๆ ที่คุณจำเป็นต้องมีไว้ในห้องครัวหรือร้านอาหาร
หนึ่งในจุดหมายสำคัญสำหรับเชฟทุกคนที่เดินทางไปยังถนนเซี่ยงไฮ้แห่งนี้คือร้านเขียง Man Kee Chopping Board ร้านแห่งนี้เปิดมานานกว่าครึ่งศตวรรษ โดยจำหน่ายเขียงคุณภาพดีและสามารถสั่งทำพิเศษได้จากไม้หลากหลายชนิดเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของเชฟ ไม้เนื้อดีที่ร้านนี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนฟองน้ำคอยดูดซับน้ำหนักเมื่อคุณลงมีดสับในแต่ละครั้ง ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ
ไมค์ อู เจ้าของร้าน ได้แบ่งปันเคล็ดลับในการดูแลรักษาเขียงอย่างเหมาะสม แถมยังมอบเขียงไม้เป็นของขวัญให้เชฟวิกกี้นำไปใช้ในร้านอาหารของเธอ ปัจจุบัน เขียงไม้เช่นนี้ไม่เป็นที่นิยมอย่างที่เคยเป็นมา ด้วยเหตุนี้เอง เขียงของทางร้าน Man Kee จึงนับว่าเป็นของดีที่ซ่อนอยู่อย่างแท้จริงสำหรับผู้ที่ยังคงชื่นชอบในการใช้เขียงไม้ดีๆ ในการประกอบอาหาร
เมื่อมีเครื่องมือครบถ้วนแล้ว ก็ถึงเวลาของ “ส่วนผสม”
เดินไปตามถนนเซี่ยงไฮ้เพียงไม่กี่นาที คุณก็จะพบกับตลาดขายส่งผลไม้เหยามาเต่ย โดยตลาดแห่งนี้รวมถึงอาคารหลายหลังในพื้นที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2456 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารประวัติศาสตร์เกรด 2 ไปเมื่อปี 2552 ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการต่อเติมหรือปรับปรุงใหม่ แต่ทางเข้าด้านหน้าอาคารก็ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้เหมือนเดิม
เชฟวิกกี้กล่าวว่า “หากกำแพงพูดกับเราได้ เราคงได้ฟังเรื่องราวในอดีตมากมาย” เนื่องจากการเดินทางไปตลาดก็เหมือนการย้อนเวลากลับไป ผ่านทางบรรดาสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ทั้งหมดและโรงละครเหยามาเต่ยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน ตลาดจะคึกคักที่สุดในช่วงเช้าตรู่เมื่อมีการขนส่งผลไม้ใหม่ๆ เข้ามา และแน่นอนว่า ที่แห่งนี้ถือเป็นสถานที่แห่งแรงบันดาลใจในการทำอาหารที่ดีที่สุดสำหรับเชฟอย่างวิกกี้
นอกจากนี้ เชฟต่างๆ ยังพบแรงบันดาลใจจากอาหารที่พวกเขารับประทาน หลังจากที่พาเราไปชมตลาดแล้ว ทั้งสองได้พาเราไปที่ร้าน Hing Kee Claypot Rice บนถนนเทมเปิลสตรีท ร้านประจำที่เชฟวิกกี้มักไปเพื่อรับประทานเมนูข้าวอบหม้อดิน และยังเป็นร้านที่เธอมักจะพาเพื่อนๆ ชาวต่างชาติแวะเวียนมาอยู่เสมอ ทางร้านมีเมนูอาหารที่ช่วยเยียวยาจิตใจกว่า 60 เมนู และเปิดมายาวนานกว่า 40 ปี
ในซีรีส์นี้ คุณจะได้เรียนรู้เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับอาหารรสชาติดีแบบดั้งเดิมจากเชฟวิกกี้และเด็บบี้ ก่อนไปรับชมทักษะของเชฟวิกกี้ในการวาดลวดลายการทำอาหารที่ Tate Dining Room อย่างใกล้ชิด
เชฟทุกคนล้วนมีเคล็ดลับเฉพาะตัวในการทำให้อาหารมีรสชาติดีที่สุด ตั้งแต่การคัดสรรส่วนผสมที่มาจากตลาดในท้องถิ่นโดยเฉพาะ ไปจนถึงมีดที่ผ่านการตอกและลับโดยช่างฝีมือดี กว่าอาหารสักจานจะผ่านการรังสรรค์ออกมาสู่โต๊ะอาหารได้นั้น เรียกได้ว่าต้องมีความทุ่มเทและใส่ใจ
มาดูกันว่าเชฟวิกกี้จะมาปรุ