QVIRA (คิวไวร่า) นวัตกรรมสิ่งทอประเภทเส้นใยผ้าอัจฉริยะ ที่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ได้ด้วยตัวเอง ประสิทธิภาพถึง 99% ตั้งแต่สัมผัสแรก ยกระดับนวัตกรรมสิ่งทอที่ปราศจากสารเคมี และสารเคลือบอันตราย ผ่านการรับรองจากสถาบันวิจัยนานาชาติ และรางวัลการันตีระดับโลก คิดค้นและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย ภายใต้ บริษัท ไอเคคร๊าฟท์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสิ่งทอคุณภาพสูงที่มาพร้อมนวัตกรรมที่ดีที่สุด ภายใต้แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เดินหน้าขยายฐานลูกค้าตลาดพรีเมี่ยม ทั้งในและต่างประเทศ เสริมแกร่งด้วย 3 กลยุทธ์หลัก People ,Planet, Customer ตั้งเป้ายอดขายปี 2565 ไว้ที่ 100 ล้านบาท
บริษัท ไอเคคร๊าฟท์ จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมสิ่งทอมาตรฐานสากล ที่มีความเชี่ยวชาญผสานกับนวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์สุขภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับชีวิตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยกระดับผลิตภัณฑ์สิ่งทอสู่ตลาดระดับสากลมาแล้วนับไม่ถ้วน ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทั้ง MONSILK นวัตกรรมสิ่งทอที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อม ด้วยการอัพไซคลิ่ง (Upcycling) ขยะจากขวดพลาสติก PET ให้เป็นผลิตภัณฑ์สิ่งทอระดับพรีเมี่ยมและปลอดสารพิษ คืนสมดุลให้แก่ระบบนิเวศ และ QVIRA นวัตกรรมเส้นใยอัจฉริยะที่ถูกถักทอรวมเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกันกับผ้า ช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้อย่างทั่วถึงทุกอณูผ้า
ดร. กฤษณา สุขบุญญสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเคคร๊าฟท์ จำกัด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จและประสบการณ์อันยาวนานกว่า 30 ปี ในธุรกิจพรมทอมือและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ของบริษัทแม่อย่าง บริษัทคาร์เปท เมกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท อินเตอร์ไกร ที่มุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์คุณภาพชีวิต และตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีขึ้น ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย และทีมวิจัยของตัวเอง ทำให้เกิดความชำนาญในตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสิ่งทอ เพื่อสร้างสรรค์สุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับชีวิต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน คือวิสัยทัศน์ของเรา
ด้วยความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสิ่งทอ บวกกับทีมงานมืออาชีพ ทำให้เราได้มีโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโรคที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับการปกป้องและสร้างความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ใช้ในบ้านเรือน โดยมี 3 กลยุทธ์หลักทางธุรกิจ ได้แก่ People ,Planet, Customer ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักๆ เราจะเน้นไปที่กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการการบริการ กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มขนส่งหรือโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจคมนาคมและอากาศยาน และกลุ่มการโรงแรมและการบริการ เพื่อยกระดับมาตรฐานความสะอาดปลอดภัย และสุขอนามัย ของพนักงานและเพิ่มความปลอดภัยของผู้เข้ามาใช้บริการ
โดยที่ผ่านมามีบริษัทฯ ชั้นนำของไทยมาร่วมเป็นพันธมิตรกับเราเพื่อนำเส้นใยผ้าอัจฉริยะ QVIRA มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อบุคลากรภายในแล้ว เช่น MQDC ที่ได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์จาก QVIRA นวัตกรรมเส้นใยยับยั้งเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย เพื่อใช้ในสำนักงานขาย และโครงการที่อยู่อาศัยทุกโครงการ รวมถึงสถาบันการเงิน อย่าง SCB และเซ็นทรัล ก็ได้ตกลงความร่วมมือกับเรา ที่จะใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี QVIRA เพื่อผลิตหน้ากากผ้า ให้กับบุคลากรของบริษัท ทั้งหมด เพราะบริษัทเหล่านี้ มีบุคลากรที่เป็น Frontline ที่ต้องประสานงาน และให้บริการกับลูกค้าค่อนข้างมาก
นวัตกรรมเส้นใยผ้าอัจฉริยะ QVIRA เป็นการผสมนาโนสังกะสี (Zinc) เข้าไปในระดับเส้นใยผ้าซึ่งมีไอออนประจุบวกที่สามารถทำลายเปลือกหนามโปรตีนหุ้มเซลล์ไวรัสที่มีไอออนประจุลบ ด้วยกระบวนแลกเปลี่ยนประจุไอออน ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้ไวรัสอ่อนแอลง ทำให้ไวรัสไร้สมรรถภาพและไม่สามารถเพิ่มจำนวนต่อไปได้ ไม่ใช่เพียงเคลือบสารไว้บนผิวของเนื้อผ้า แต่เป็นการถักทอคุณสมบัติพิเศษที่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสเข้าไปในเส้นใยแล้วทอออกมาเป็นเนื้อผ้า จึงทำให้คุณสมบัติในการป้องกันเชื้อโรคของ QVIRA มีความทนทาน คงทน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยได้ผ่านการทดสอบคุณสมบัติยับยั้งไวรัสตามมาตรฐาน ISO 18184 โดยได้รับการรับรองจากสถาบันชั้นนำระดับโลกถึง 3 สถาบัน ไม่ว่าจะเป็น สถาบัน Nelson Labs ในสหรัฐอเมริกา, สถาบัน SGS ในฮ่องกง, สถาบัน MSL ในอังกฤษ พิสูจน์แล้วว่ายังสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้แม้ผ่านการซักทำความสะอาดกว่า 150 ครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น เส้นใย QVIRA ผ่านการทดสอบและรับรองโดยมาตรฐาน OEKO-TEX Standard 100 – Class 1 (มาตรฐานสากลควบคุมปริมาณสารเคมี 100 รายการให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ Class 1 สำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ปลอดภัย สำหรับเด็กแรกเกิด ถึง 3 ขวบ) ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์จากเส้นใย QVIRA ไม่มีสารพิษหรือสารเคมีที่เป็น อันตรายต่อร่างกาย ปลอดภัยต่อเด็กทารก สตรีมีครรภ์ รวมถึงผู้สูงอายุ หรือแม้ผิวบอบบาง รวมไปถึงสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย แกรมบวกและแกรมลบ เชื้อรา และสามารถยับยั้งไรฝุ่นอีกด้วย
ดร. กฤษณา กล่าวเสริมว่า เราคาดหวังว่าเส้นใยผ้า QVIRA ของเราจะสามารถช่วยให้การใช้ชีวิตของคนไทยมีความปลอดภัย ห่างไกลจากเชื้อไวรัสที่ทุกคนจะต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 และคาดหวังว่าจะสามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้บริโภคด้วยการปกป้องจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราและไรฝุ่นต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการลดปริมาณขยะพลาสติกที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และรักษาสมดุลของระบบนิเวศอย่างยั่งยืน เพราะ QVIRA เราพัฒนาร่วมกับเส้นใย MONSILK™ ที่นำขยะพลาสติกมาผ่านกรรมวิธี Upcycling จนเป็นเส้นใยผ้าคุณภาพสูง เราจึงได้ขยายช่องทางการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภคด้วยการผลิตสินค้าจากเส้นใยผ้า QVIRA ภายใต้แบรนด์ GoodsMaker ซึ่งเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากผ้า, ถุงมือ และผ้าเช็ดอเนกประสงค์
ทั้งนี้ แนวทางในการดำเนินธุรกิจของเราคือ แบ่งปันอย่างมีศิลปะ สร้างการเติบโตร่วมกับพันธมิตรคู่ค้า ด้วยธรรมาภิบาลและความใส่ใจ กล่าวคือ เรามีความยินดีที่จะแบ่งปันนวัตกรรมเส้นใยผ้า QVIRA กับพันธมิตรทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการเป็นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และนวัตกรรมใยผ้าแบบพิเศษ ที่จะสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพร่วมกับพันธมิตรในอนาคตของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ