วว. ทำพิธีลงนาม บ.โฮปฟูลฯ ถ่ายทอดเทคโนโลยี การสกัดสารสกัดรำข้าว พัฒนาองค์ความรู้ สู่ผลิตภัณฑ์โรคหลอดเลือด-หัวใจ

(วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565) สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) นำโดย ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. ได้จัดพิธีลงนามการถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารฯ ร่วมกับ บริษัท โฮปฟูล จำกัด นำโดย นายอรรคพล  หยกยิ่งยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮปฟูล จำกัด ในการถ่ายทอดและบริการวิจัยโครงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อลดความเสี่ยง โรคหัวใจ และหลอดเลือดจากภาวะความดันโลหิตสูงด้วยสารสกัดเพปไทด์ไฮโดรไลเซทจากข้าว และโครงการบริการวิจัย “การสกัดสารสกัดรำข้าวเพื่อใช้เป็นสารออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือดจากภาวะความดันโลหิตสูงด้วยสารสกัดเพปไทด์ไฮโดรไลเซทจากข้าว” ณ ห้องประชุมใหญ่ Admin-5 ชั้น 5 อาคาร Admin วว.เทคโนธานี อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. เปิดเผยว่า “จากผลการศึกษาวิจัย สารสกัดเพปไทค์ไฮโดรโลเซทจากข้าว เป็นสารสกัดในกลุ่มโปรตีนหรือเพบไทด์ที่ได้มีขนาดโมเลกุลเล็ก และมีสาร g-aminobutyric acid (GABA) มีสรรพคุณในการยับยั้ง Angiotensin II ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคความดันโลหิต และลดไขมันชนิดเลวในเลือด จากนั้นได้ทดสอบในสัตว์ทดลองก็พบว่า สามารถลดความดันโลหิตได้ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงของโรคหัวและหลอดเลือด จากภาวะความดันสูงได้ และเมื่อนำมาใช้กับมนุษย์พบว่า เป็นสารสกัดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยในเรื่องลดความเสี่ยงโรคหัวใจ หลอดเลือด จากภาวะความดันสูง ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงและได้ผลจริง กรรมวิธีการสกัดเราเลือกใช้วัตถุดิบที่มีความใหม่ หลังการสีข้าวแล้ว นำมาใช้เลยเพื่อทำให้ได้สารสกัดที่มีสารออกฤทธิ์ตามที่เราต้องการในปริมาณที่สูง ซึ่งก่อนหน้านี้เราจะเห็นผลิตภัณฑ์จากข้าวออกมามากมาย ส่วนใหญ่จะเน้นน้ำมันรำข้าว ที่มีปริมาณของ linoleic acid และ oryzanol สูงและสารในกลุ่มของสารสี anthocyanin หรือ สารในกลุ่ม Flavonoid แต่ผลิตภัณฑ์ที่ วว. พัฒนาขึ้นมาเราเน้นสารสกัดในกลุ่ม โปรตีนหรือเพปไทด์ จากข้าว มาใช้ประโยชน์ ในการบำรุงสุขภาพ ป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ หลอดเลือด จากภาวะความดันสูง ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ ในขั้นตอนของกระบวนการสกัดสารออกฤทธิ์ ซึ่งทาง วว. ได้จดสิทธิบัตรไว้แล้ว”

ส่วนการถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้จะส่งผลอย่างไรต่อธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผู้ว่าการ วว. เผยว่า “เป็นการผลักดันให้เกิดการใช้วัตถุดิบในการผลิตขึ้นภายในประเทศของเรา โดยการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ที่ให้ผลจริง มีข้อมูลด้านการวิจัยรองรับทั้งทางด้านสรรพคุณและความปลอดภัย เสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค  อีกทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม จากการนำรำข้าวไปใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ส่งเสริมให้กลุ่มธุรกิจอาหารเสริม ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ ซึ่งมีความหลากหลายและมีสรรพคุณไม่แพ้สารที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเลย อีกทั้งสารสกัดนี้มีประสิทธิภาพสูง และสามารถใช้ได้กับทุกกลุ่มช่วงอายุ”

ด้าน นายอรรคพล  หยกยิ่งยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮปฟูล จำกัด เผยว่า “รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ไว้วางใจและให้โอกาส บริษัท โฮปฟูล จำกัด ในการนำเทคโนโลยีการสกัดสารสกัดรำข้าวเพื่อใช้เป็นสารออกฤทธิ์ มาพัฒนาและต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้บริษัทโฮปฟูลฯ ซึ่งต้องบอกว่าสารสกัดเพปไทด์ไฮโดรไลเซทจากรำข้าวมีประโยชน์มากมายจริงๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือดจากภาวะความดันโลหิตสูง  เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการที่จะนำมาเป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคคนไทยที่ต้องการดูแล ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของโรคหัวใจ และหลอดเลือดจากภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งปัจจุบันคนไทยมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคเหล่านี้กันมากขึ้น การที่ บ.โฮปฟูลฯ ได้มีโอกาสนำเทคโนโลยีการสกัดสารสกัดรำข้าว ของสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้ชื่อแบรนด์ BETA OIL จะเป็นตัวช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบไขมันในเลือด คลอเลสเตอรอล และหัวใจ ซึ่งจะช่วยในการบำรุงสุขภาพ ป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ หลอดเลือด จากภาวะความดันสูง ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดีครับ”

สามารถติดตามเรื่องราว บริษัท โฮปฟูล จำกัด ในการนำผลงานวิจัย การนำการสกัดสารสกัดรำข้าวเพื่อใช้เป็นสารออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือดจากภาวะความดันโลหิตสูงด้วยสารสกัดเพปไทด์ไฮโดรไลเซทจากข้าว ของสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) มาพัฒนาต่อยอดสู่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร BETA OIL ตัวช่วยบล็อคไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอลได้ ทาง  Line : https://lin.ee/2sKfmq7 หรือ  https://hopefulcares.com/