ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกและศิลปินผู้ชนะรางวัล GRAMMY® AWARD ED SHEERAN เผยเบื้องหลังชีวิตและเพลงฮิตมากมาย ในซีรีส์สารคดีสุดพิเศษ ความยาว 4 ตอน สตรีมวันแรก 3 พฤษภาคมนี้
จากผู้ชนะรางวัล Emmy Award® Producers ที่ Fulwell 73 Productions (‘Elton John Live: Farewell from Dodger Stadium,’ ‘Adele: One Night Only,’ ‘The GRAMMY Awards’)
ซีรีส์สารคดี ‘Ed Sheeran: The Sum of It All’ ที่รวมฟุตเทจมากมายที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน บทสัมภาษณ์ และการแสดงสดสุดทรงพลัง พร้อมทั้งเปิดเผยเรื่องราวเบื้องลึกส่วนตัว ที่ทำให้เป็น Ed Sheeran ในวันนี้
เพลงใหม่ล่าสุดของ Sheeran ที่ชื่อว่า ‘Eyes Closed’ เตรียมปล่อยในวันศุกร์ที่ 24 มีนาคมนี้ พร้อมกับอัลบั้มใหม่ล่าสุด ‘ – ’ (อ่านว่า ‘Subtract’) ที่เตรียมปล่อยในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้
รับชมตัวอย่าง: Ed Sheeran: The Sum Of It All | ตัวอย่าง | Disney+ Hotstar Thailand
วันนี้ Disney+ Hotstar ประกาศซีรีส์สารคดีสุดพิเศษความยาว 4 ตอน “Ed Sheeran: The Sum of It All” ซึ่งอำนวยการสร้างโดย Fulwell 73 Productions เจ้าของผลงาน Elton John Live: Farewell from Dodger Stadium, Adele: One Night Only และงาน The GRAMMY Awards จะพาผู้ชมเดินทางไปทั่วโลกเพื่อติดตามชีวิตของเด็กพูดติดอ่างคนหนึ่ง ที่กลายมาเป็นหนึ่งในซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รวมถึงต้นกำเนิดเพลงฮิตติดชาร์ตมากมายใน “Ed Sheeran: The Sum of It All” ผลงานล่าสุดจาก Disney Branded Television สตรีมพร้อมกันทั่วโลกในวันพุธที่ 3 พฤษภาคม บน Disney+ Hotstar เท่านั้น
นับว่าเป็นครั้งแรกที่ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง Ed Sheeran เปิดเผยมุมมองอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา ในระหว่างที่มองหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เพลงของตนเอง ซีรีส์สารคดีนี้ติดตาม Ed Sheeran ตั้งแต่ช่วงที่เขาเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ความยากลำบาก และการได้รับชัยชนะในช่วงที่ท้าทายที่สุดในชีวิตเขา รวมถึงชีวิตส่วนตัวที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ชีวิตประจำวัน บทสัมภาษณ์กับภรรยา และคนที่เขารัก นอกจากนี้แฟน ๆ ยังจะได้รับชมการแสดงสดเพลงฮิตในสถานที่ต่าง ๆ ผู้ชมจะได้พบกับมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับ Ed Sheeran ความคิดของเขาต่อโลก ตัวเอง ดนตรี ตลอดจนการแสดงผลงานเพลงฮิตตลอดทศวรรษที่คนทั่วโลกชื่นชอบ
ตลอดอาชีพการงานที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน Ed Sheeran ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ทั้งผู้ใหญ่ ครอบครัว และเด็ก ๆ ทั่วโลกด้วยเพลงติดชาร์ต และการเล่าเรื่องผ่านผลงานเพลง ในแต่ละตอนของซีรีส์สารคดีนี้ Ed Sheeran จะบอกเล่าเรื่องราวผ่านธีมและอารมณ์ที่คนส่วนใหญ่ประสบ เขาถ่ายทอดความคิดที่ลึกซึ้งขึ้น ในขณะที่กำลังทบทวนชีวิต พร้อมทั้งสะท้อนถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งมีอิทธิพลต่อตัวเขาและเพลงใหม่ของเขาอย่างไร อัลบั้มชุดที่ 6 ของ Ed Sheeran ที่กำลังจะปล่อยในชื่อ “ – ” (อ่านว่า “Subtract”) มีกำหนดวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม ผ่านทาง Atlantic ในสหรัฐอเมริกา Atlantic/Asylum Records ในสหราชอาณาจักร และ Atlantic/Warner Music ทั่วโลก โดยซิงเกิลนำอย่าง “Eyes Closed” จะปล่อยในวันศุกร์ที่ 24 มีนาคมนี้
“ในซีรีส์สารคดีชุดนี้ เราจะเปิดเผยอีกด้านของ Ed Sheeran ที่แฟน ๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน” Ayo Davis ประธานของ Disney Branded Television กล่าว “การร่วมงานกับ Fulwell 73 ทำให้เราได้สร้างสรรค์สิ่งที่ถือว่าเป็นส่วนตัวมาก ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างความบันเทิงแก่ผู้ชมเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขา
“ผมค่อนข้างไม่เปิดเผยชีวิตส่วนตัวสักเท่าไหร่ สารคดีเรื่องเดียวที่ผมเคยทำคือสารคดีที่เน้นการแต่งเพลง” Ed Sheeran กล่าว “ตอนดิสนีย์ทาบทามให้ผมสร้างสารคดี 4 ตอน ผมรู้สึกว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะเปิดประตูให้ผู้คนรู้จักผมมากขึ้น ผมหวังว่าทุกคนจะสนุกกับมันนะครับ”
“ทุกคนในโลกรู้จักและชื่นชอบเพลงของ Ed Sheeran เนื่องจากเพลงของเขาเป็นส่วนหนึ่งให้กับหลายช่วงเวลาในชีวิตของเรา” Ben Turner และ Ben Winston จาก Fulwell 73 กล่าวเสริม “ซีรีส์ชุดนี้แสดงให้เห็นถึงผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังเพลงฮิต ทั้งนี้ยังแสดงให้เราเห็น Ed Sheeran ในมุมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หลังจากผ่านปีที่วุ่นวาย ทั้งด้านส่วนตัว และอาชีพ การได้สร้างสรรค์ซีรีส์ 4 ตอนนี้ถือเป็นเกียรติอย่างมากสำหรับเรา”
เรื่องราวในแต่ละตอน:
“ความรัก”
ในตอนนี้ Ed Sheeran เล่าถึงความมุ่งมั่นในการทำงานอันแน่วแน่ที่ส่งผลให้เขาประสบความสำเร็จในระดับโลก แฟน ๆ จะได้เห็นฟุตเทจในช่วงที่เขายังเป็นวัยรุ่น ซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน เขาเล่าย้อนกลับไปว่าเขาได้วางแผนความสำเร็จที่ดูจะเป็นไปไม่ได้นี้อย่างไร ในช่วงเริ่มแรกที่อุตสาหกรรมดนตรีมองข้ามความสามารถของเขา Ed Sheeran ก็ไม่หยุดนิ่งทำตามความฝัน จนกระทั่งได้พบกับ Jamal Edwards นักธุรกิจด้านสื่อ ในปี 2010 พวกเขาร่วมกันใช้อินเทอร์เน็ตที่กำลังเติบโตเป็นเครื่องมือในการเข้าหาผู้ฟัง “The A Team” เพลงที่แม้จะโด่งดังสุดขีดในอเมริกา แต่สำหรับ Ed Sheeran ยังมีบางสิ่งที่ยังขาดหายไป นอกจากนี้เขายังได้แบ่งปันเรื่องราวเบื้องหลังเพลงรักอันโด่งดัง “Perfect” และเรื่องราวชีวิตสุดโรแมนติคของเพื่อนเก่าสมัยเรียนของเขาที่ชื่อว่าCherry ที่ตอนนี้กลายมาเป็นเป็นภรรยาสุดที่รักนั่นเอง Ed Sheeran ที่ดูเหมือนว่าจะมีทุกอย่าง จนกระทั่งวันหนึ่งภรรยาของเขาได้บอกข่าวที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา นั่นทำให้ Ed Sheeran ตระหนักได้ว่า เส้นทางชีวิตที่วางแผนไว้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันที และเขาจะต้องพร้อมรับมือกับมันอยู่ตลอดเวลา
“ความสูญเสีย”
Ed Sheeran พ่อแม่ของเขาและ Cherry ร่วมกันย้อนวันวานผ่านรูปถ่ายเก่า ๆ ของเขา พร้อมทั้งบอกถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจกลับมาตั้งรกรากที่บ้านเกิดของตัวเอง ในตอนนี้ แฟน ๆ จะได้รับชมฟุตเทจจากคอนเสิร์ต Divide Tour เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสนิทที่เป็นเสมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้รับข่าวร้ายว่า Jamal Edwards เพื่อนรักของเขาเสียชีวิตลงอย่างกระทันหันEd Sheeran เลยใช้การทำสมาธิและดนตรีเป็นเครื่องเยียวยาจิตใจ ไม่เพียงเท่านี้ แฟน ๆ ยังจะได้รับชมเทปพิเศษของทัวร์ที่ Wembley Stadium ในลอนดอน ที่ได้ Stormzy มาร่วมเวที พร้อมส่งพลังผ่านการแสดงที่สุดเซอร์ไพรส์ ก่อนที่จะไปเล่นยังเมืองเล็กๆ ในบ้านเกิดของเขาต่อไปอีกด้วย พร้อมกับร้องเพลง “Thinking Out Loud”
“ความตั้งใจ
ในตอนนี้ Ed Sheeran จะแสดงความสามารถด้านการแต่งเพลงของเขาให้แฟน ๆ ได้เห็นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพลง Bad Habits ที่เล่าผ่านฟุตเทจสุดพิเศษ และเพลง “Eyes Closed” ที่เขาเล่าถึงที่มาของเพลงผ่านหัวใจที่ลึกซึ้งในปี 2018 หลังจากปีที่แสนวุ่นวาย Ed Sheeran กลับมาถ่ายทอดอารมณ์และสร้างสรรค์ผลงานอีกครั้งในอัลบั้มใหม่ Subtract ด้วยความเสียใจจากการจากไปของ Jamal เขาโฟกัสไปที่การทำเพลงอย่างต่อเนื่อง ถ่ายทำมิวสิควิดีโอ 14 ตัว สำหรับอัลบั้มใหม่ ขึ้นแสดงพร้อมกับ Eminem ตามความฝันในวัยเด็ก บนเวที Rock N Roll Hall of Fame ขณะเดียวกัน Cherry ภรรยาของเขาก็กังวลว่า Ed Sheeran ใช้งานเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความสูญเสีย ไม่เพียงเท่านี้ เขายังได้ร้องเพลงจากอัลบั้มใหม่ แต่ก็อดที่จะกลั้นความรู้สึกที่อัดอั้นในใจออกมาไม่ได้
“ความสมดุล”
ในตอนสุดท้าย Ed Sheeran เดินทางไปอเมริกาเพื่อโปรโมตทัวร์ของเขา ทั้ง Ed และ Cherry บอกเล่าถึงการรักษาความสมดุลระหว่างชีวิตครอบครัวและงานเมื่อต้องอยู่ห่างไกลกัน Cherry เล่าว่าเธอเห็นการเปลี่ยนแปลงของ Ed ในระยะหลายปีที่ผ่านมา Ed ยังได้พบกับเพื่อนสนิท Stormzy ศิลปินชาวอังกฤษ เพื่อบอกเล่าถึงความกังวลในการการปล่อยวางเรื่องราวส่วนตัวของเขาเอง ที่เขาสื่อสารผ่านอัลบั้ม Subtract นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึง Jamal เพื่อนรักของเขา Ed Sheeran ได้มอบเพลง “F64” ซึ่งเกี่ยวกับมิตรภาพของพวกเขา ซึ่งแสดงสดที่ Stamford Bridge สนามฟุตบอล บ้านของสโมสรเชลซีอีกด้วย หลังจากที่มีข่าวดีเกี่ยวกับสุขภาพของ Cherry เธอและ Ed Sheeran ได้ไตร่ตรองถึงความยากลำบากและความสำเร็จทั้งหมดในช่วงปีที่ผ่านมา และมองไปยังอนาคตด้วยมุมมองที่สดใสมากขึ้น
“Ed Sheeran: The Sum of It All” ผลิตโดย Fulwell 73 Productions สำหรับ Fulwell 73 นั้น Ben Winston และ Ben Turner เป็นผู้อำนวยการสร้าง และได้ David Soutar มาเป็นผู้กำกับซีรีส์ สำหรับ Disney Branded Television มี Marc Buhaj เป็นรองประธานฝ่าย Unscripted and Nonfiction และ Nicole Silveira เป็นรองประธานฝ่าย Unscripted
###
เกี่ยวกับ Fulwell 73 Productions
Fulwell 73 Productions เป็นบริษัทโปรดักชั่นที่ตั้งอยู่ในลอนดอนและลอสแองเจลิส ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์คุณภาพสูงที่ทั้งให้ความบันเทิงและสาระความรู้ ทางฝั่งรายการโทรทัศน์ Fulwell 73 ผลิตรายการ “Carpool Karaoke The Series” บน AppleTV+ ซึ่งคว้ารางวัล EMMY Award หลายรางวัล, “The Late Late Show with James Corden” ที่คว้ารางวัลทั้งจาก EMMY และ Critics Choice Award, และ “The Kardashians” รายการยอดนิยมบน Hulu นอกจากนี้ ยังมีรายการสเปเชียลมากมาย ทั้ง “Elton John Live: Farewell from Dodger Stadium,” and “Encanto at the Hollywood Bowl “Adele: One Night Only” และ “An Audience with Adele” ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเวที BAFTA และยังมี “Among the Stars” บน Disney+ และ “Sex Unzipped” บน Netflix ที่ดำเนินรายการโดย Sweetie ยิ่งไปกว่านั้น Fulwell 73 ยังผลิตรายการเฉลิมฉลองทางดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทางโทรทัศน์อย่างงานประกาศรางวัล Grammy Awards เป็นปีที่สามติดต่อกันและยังได้รับคำชมอย่างท่วมท้นว่าได้ชุบชีวิตรายการนี้กลับมาอีกครั้ง Fulwell 73 ยังได้จับมือกับ NBA Entertainment เพื่อสร้างซีรีส์สารคดีเกี่ยวกับ 2023 NBA Playoffs และยังจับมือกับ FIFA+ เพื่อผลิตรายการพิเศษให้กับ Netflix เกี่ยวกับฟุตบอลโลก World Cup Qatar 2022
เกี่ยวกับ Disney+ Hotstar
Disney+ Hotstar เป็นบริการสตรีมมิ่งที่นำเสนอภาพยนตร์และรายการจากทั้งดิสนีย์, พิกซาร์, มาร์เวล, สตาร์ วอร์ส, เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก, เดอะ ซิมป์สัน และอื่น ๆ อีกมากมาย Disney+ Hotstar บริการสตรีมมิ่งเซอร์วิสโดยตรงกับผู้บริโภคจาก เดอะ วอลต์ ดิสนีย์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนก ดิสนีย์ มีเดีย แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ดิสทริบิวชัน โดย Disney+ Hotstar นำเสนอคลังเอ็กซ์คลูซีฟออริจินัลคอนเทนต์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ สารคดี ไลฟ์แอ็กชันและแอนิเมชันซีรีส์ และรายการขนาดสั้นอีกมากมาย นอกจากการเข้าถึงคอนเทนต์ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานของดิสนีย์ ทั้งภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ Disney+ Hotstar ยังเป็นแหล่งสตรีมเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับคอนเทนต์ล่าสุดจาก เดอะ วอลต์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ อีกด้วย สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้บน www.hotstar.com หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ได้บนอุปกรณ์มือถือที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และเชื่อมต่อเข้ากับโทรทัศน์
เกี่ยวกับ Disney Branded Television
Disney Branded Television ประกอบไปด้วยนักเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ทีมโปรดักชัน และทีมการตลาดที่ดูแลการผลิตซีรีส์ทางโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และรายการอื่น ๆ ของแบรนด์ดิสนีย์ทั้งในรูปแบบไลฟ์แอ็กชัน การ์ตูน และรายการแบบไม่มีสคริปต์สำหรับแพลตฟอร์มของดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็น Disney+ Hotstar, Disney Channel, Disney XD และ Disney Junior ด้วยเนื้อหาที่เสริมสร้างจินตนาการและมอบแรงบันดาลใจซึ่งเหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย เด็ก วัยรุ่น และครอบครัว ผลงานล่าสุดของ Disney Branded Television ได้แก่ “High School Musical: The Musical: The Series,” “Monsters at Work,” “The Mysterious Benedict Society,” “Growing Up,” และ “Marvel’s Spidey and his Amazing Friends,” รวมถึง “Elton John Live: Farewell from Dodger Stadium.” นอกจากนี้ ยังมีผลงานระดับรางวัลอย่าง “Doc McStuffins” และ “The Owl House” ที่ได้รับรางวัล Peabody Award, “Big City Greens” ที่คว้ารางวัล Emmy® Award รวมถึง “Turning the Tables with Robin Roberts,” “Elena of Avalor,” การ์ตูน “Mickey Mouse” ที่ผู้คนหลงรัก รวมถึงผลงานแฟรนไชส์ของ Disney Channel Original Movie (DCOM) มากกว่า 100 เรื่อง
โซเชียลมีเดีย:
Twitter: @DisneyPlusTH
Facebook: @DisneyPlusHotstarTH
Instagram: @DisneyPlusHotstarTH
TikTok: @DisneyPlusTH
Hashtag: #DisneyPlusHotstarTH #TheSumOfItAll