ในฐานะแหล่งรวมความบันเทิงสุดฮิตที่ตอบโจทย์แฟนๆ คอนเทนต์เกาหลีทั่วโลก ปีนี้ Netflix ได้ประกาศไลน์อัปคอนเทนต์เกาหลี 31 เรื่อง จัดเต็มทั้งซีรีส์ ภาพยนตร์ และรายการวาไรตี้ ให้ผู้ชมทั่วโลกได้เพลิดเพลินกันอย่างเต็มอิ่มกับความบันเทิงตลอดปี 2024 โดยในไลน์อัปในปีนี้เรียกได้ว่ามาครบทั้งคอนเทนต์ระดับโลก การกลับมาของซีรีส์เรื่องโปรด ภาพยนตร์หลากหลายแนว และรายการวาไรตี้อีกมากมาย
ดอน คัง รองประธานฝ่ายคอนเทนต์เกาหลีของ Netflix กล่าวว่า “ในปีนี้ ไลน์อัปคอนเทนต์เกาหลีของเราเต็มไปด้วยความหลากหลาย ซึ่งเผยให้เห็นสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของนักเล่าเรื่องจากเกาหลีได้อย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ ภาพยนตร์ หรือรายการวาไรตี้สุดล้ำ เราก็พร้อมจะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับแฟนๆ ทั่วโลกที่ชื่นชอบผลงานความบันเทิงเหล่านี้ พร้อมทั้งนำเสนอคอนเทนต์อีกมากมายที่ไม่ควรพลาด ซึ่งสามารถรับชมได้ที่ Netflix เท่านั้น”
การกลับมาที่หลายคนรอคอยของตัวละครอันเป็นที่รักและโลกที่ทุกคนจดจำ
ซีรีส์เรื่องโปรดของใครหลายคนกำลังจะกลับมาในปีนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผู้ชมทั่วโลกกำลังกลั้นใจรอชมอย่างซีซั่น 2 ของ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) หรือซีซั่น 3 ของ สวีทโฮม (Sweet Home) ซึ่งปักกำหนดสตรีมในช่วงกลางปีนี้ โดยจะมาพร้อมการสิ้นสุดลงของการกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด และการเริ่มต้นใหม่ของมนุษยชาติ และซีซั่น 2 ของซีรีส์ สัตว์สยองกยองซอง (Gyeongseong Creature) ที่จะพาพัคซอจุนและฮันโซฮีข้ามผ่านเวลามายังกรุงโซลในยุคปัจจุบัน ไปจนถึง ทัณฑ์นรก (Hellbound) ซีซั่น 2 ที่จะพาผู้ชมเจาะลึกลงไปถึงเรื่องราวหลังความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในซีซั่น 1
ส่วนรายการวาไรตี้จากเกาหลีของ Netflix ที่สร้างปรากฏการณ์ฮิตในปีที่ผ่านมา กำลังจะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยองค์ประกอบที่โดดเด่นและล้ำยุค ไม่ว่าจะเป็น ร้อยแกร่งแข่งอึด (Physical: 100) ที่ซีซั่น 1 ได้กลายเป็นรายการวาไรตี้ของเกาหลีรายการแรกที่ติดอันดับ Top 10 รายการทีวีภาษาต่างประเทศทั่วโลกของ Netflix และใน ร้อยแกร่งแข่งอึด (Physical: 100) – Underground ซีซั่น 2 กลุ่มผู้เข้าแข่งขันชุดใหม่ 100 คนจากภูมิหลังที่หลากหลายยิ่งกว่าเดิม จะเข้ามาทดสอบขีดจำกัดภายใต้คอนเซ็ปต์อันเดอร์กราวด์ใหม่ในสเกลที่ใหญ่ขึ้น ส่วน ซอมบี้เวิร์ส (Zombieverse) จะอัปเกรดซอมบี้ขึ้นอีกระดับในซีซั่น 2 และทำให้ผู้เข้าแข่งขันรายใหม่เอาตัวรอดได้ยากขึ้นอีก
จากความสำเร็จในซีซั่น 3 ซึ่งเซอร์ไพรส์ผู้ชมด้วยการเปลี่ยนกติกาหักมุมอย่างเหนือความคาดหมาย Single’s Inferno: โอน้อยออก ใครโสดตกนรก ได้กลายเป็นรายการวาไรตี้รายการแรกของเกาหลีที่ได้ไปต่อในซีซั่นที่ 4 บน Netflix ซึ่งจะมาพร้อมกลุ่มคนโสดกลุ่มใหม่ที่ทั้งฮอตที่สุดและพร้อมหว่านเสน่ห์ที่สุดที่จะมาสานต่อภารกิจค้นหารักในรายการ พร้อมกันนี้ Netflix ยังได้ยกระดับความร้อนฉ่าขึ้นอีกขั้นกับรายการทอล์กโชว์อย่าง ธุรกิจติดเรท (Risqué Business) ที่ขยายขอบเขตจากเอเชีย สู่การพาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวของผู้คนในอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ในยุโรปอีกด้วย
ซีรีส์ครบรสตอบโจทย์ผู้ชมทุกกลุ่ม จัดเต็มทั้งความระทึกขวัญ รักโรแมนติก คอเมดี้ และแอ็คชั่น
Netflix ยังคงเสิร์ฟความโรแมนติกผ่านเรื่องราวที่จะทำให้หัวใจของคุณได้ร่ำร้องและจมจ่อมเมื่อศัตรูต้องกลายเป็นคู่รัก ซีรีส์ย้อนยุค เสน่ห์ร้ายบัลลังก์ลวง (Captivating the King) จะพาไปสำรวจความรักผ่านการแข่งขันหมากล้อม ส่วนซีรีส์ยุคใหม่อย่าง ราชินีแห่งน้ำตา (Queen of Tears) จะพาคู่รักที่เหินห่างให้กลับมาใกล้ชิด ทั้งยังเป็นการกลับมาเล่นซีรีส์รักโรแมนติกอีกครั้งของ คิมซูฮยอน หลังจากที่แฟนๆ รอคอยกันมานาน (จาก It’s okay to Not Be okay: เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน (It’s Okay Not to Be Okay)) และคิมจีวอน (จาก My Liberation Notes: ปล่อยใจสู่เสรี (My Liberation Notes)) นอกจากนี้ยังมี หัวใจหมอไม่มอดไหม้ (Doctor Slump) ซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ที่สอดแทรกเรื่องราวของวงการแพทย์ รวมถึง Resident Playbook (WT) ที่นำแสดงโดยโกยุนจอง (จาก เล่นแร่แปรวิญญาณ (Alchemy of Souls)) ซึ่งเป็นภาคแยกของซีรีส์เรื่อง เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (Hospital Playlist)
และเพื่อเติมความสดใหม่ให้กับผลงานแนวนี้ ผู้ชมยังจะได้พบกับจุดหักมุมที่แตกต่างออกไปในซีรีส์อย่าง มิสเตอร์แพลงก์ตอน (Mr. Plankton) ซึ่งเล่าเรื่องราวของหญิงสาวผู้ไม่มีความสุขที่ต้องร่วมทางกับแฟนเก่าในการเดินทางครั้งสุดท้ายของชีวิต เพื่อตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงของเขา และเรื่อง วังวนสงครามชนชั้น (Hierarchy) ซีรีส์รักโรแมนติกผสมการแก้แค้นของเหล่าวัยรุ่น รวมถึงซีรีส์เรื่อง The Trunk ซึ่งนำแสดงโดยนักแสดงแถวหน้าอย่างกงยู (จาก ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (Guardian: The Lonely and Great God)) ซึ่งจะเล่าถึงเรื่องราวเมื่อความลับอันดำมืดของบริการหาคู่อย่างลับๆ ถูกเปิดเผย
สำหรับแฟนๆ ซีรีส์สืบสวนลึกลับ สามารถติดตามชมเรื่อง มรดกอาถรรพ์ (The Bequeathed) ที่จะผูกโยงเรื่องราวการฆาตกรรมและความลับดำมืดหลายอย่างเข้าด้วยกัน ผ่านสุสานฝังศพของครอบครัวที่เป็นเสมือนลางร้าย รวมถึงซีรีส์เรื่อง หน้ากากความยุติธรรม (A Killer Paradox) ที่ได้ ชเวอูชิก (จาก ชนชั้นปรสิต (Parasite)) และซนซอกกู (จาก D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ (D.P.)) มารับบทเป็นสองตัวละครที่ต้องลงเล่นในเกมไล่ล่าสุดซับซ้อน ในขณะที่ หากไม้ล้มในป่าลึก… (The Frog) จะพาผู้ชมไปยังโรงแรมที่ซ่อนอยู่ลึกเข้าไปในป่าเพื่อไขคดี ซีรีส์เกาหลีในปีนี้ไม่เพียงมีเรื่องราวการไขคดีอาชญากรรมเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวอื่นๆ อย่างใน The Whirlwind: แผนพลิกอำนาจ ที่เล่าถึงความบาดหมางทางการเมืองที่ต้องหาทางออก
จากนั้นไปหัวเราะกันให้สุดเสียงกับ ไก่ทอดคลุกซอส (Chicken Nugget) แล้วไปต่อกับผลงานตลกร้ายอย่าง The 8 Show โดยทั้งสองเรื่องสร้างจากเว็บตูนชื่อดัง ส่วน ปรสิต: เดอะ เกรย์ (Parasyte: The Grey) จะเนรมิตโลกมังงะเรื่องโปรดของแฟนๆ จากผลงานปลายปากกาของฮิโตชิ อิวาอากิ ให้เกิดขึ้นบนฉากหลังใหม่และเรื่องราวใหม่ๆ ที่ประเทศเกาหลี
ภาพยนตร์ที่อัดแน่นด้วยฉากแอ็คชั่นและรายการวาไรตี้ที่จุดประกายจินตนาการ
ปีนี้ Netflix ทุ่มเทเต็มที่เพื่อยกระดับความหลากหลายให้กับไลน์อัปภาพยนตร์จากเกาหลี โดยแต่ละเรื่องมาพร้อมนักแสดงเกาหลีที่โด่งดังระดับโลก ซึ่งทุ่มเททั้งหัวใจและจิตวิญญาณลงไปในภาพยนตร์แต่ละเรื่องอย่างแท้จริง ทั้งแนวรักโรแมนติกผสมดราม่า (ผมชื่อโรกีวาน (My Name is Loh Kiwan)) ที่ผู้ชมจะได้พบกับซงจุงกิ (จาก วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย (Vincenzo)) แนวแอ็คชั่น (เจ้าหน้าที่สายดำ (Officer Black Belt)) กับคิมอูบิน (จาก Black Knight) แนวหายนะ (The Great Flood) กับพัคแฮซู (จาก นักบุญนาร์โค (Narco-Saints)) แนวไซไฟในโลกดิสโทเปีย (นักล่ากลางนรก (Badland Hunters)) กับดอน ลี (จาก The Eternals) และแนวประวัติศาสตร์ (Uprising) กับคังดงวอน (จาก Broker) ที่สำคัญ Uprising ยังเป็นการทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรกระหว่าง Netflix กับบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างพัคชานอุคอีกด้วย
Netflix ยังยกระดับรายการวาไรตี้ขึ้นอีกขั้นด้วยรายการใหม่ๆ ที่มาพร้อมธีมสุดล้ำและสเกลการสร้างที่ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นคอนเซ็ปต์ที่ให้เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษมาไขคดีสุดแปลกใน มือใหม่ไขคดี (Agents of Mystery) หรือการได้ชมอภิมหาเศรษฐีเผยวิถีชีวิตสุดหรูหราใน รวย หรู ฟู่ฟ่าในเกาหลี (Super Rich in Korea) ส่วนในรายการ อินฟลูเอนเซอร์ (The Influencer) เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ในเกาหลีใต้จะต้องมาประชันกันเพื่อดึงดูดความสนใจ ในขณะที่รายการ Unknown Chefs (WT) จะพาผู้เข้าแข่งขัน 100 คนมาประลองฝีมือการทำอาหารกันแบบดุเดือด
ดอน คัง กล่าวส่งท้ายว่า “ในปีนี้เราต้องการส่งเสริมความหลากหลายของเรื่องเล่าจากเกาหลี ด้วยการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีความแตกต่าง ตอบโจทย์ผู้ชมทุกกลุ่ม พร้อมทั้งเติมเต็มประสบการณ์การรับชมให้กับผู้ชมทุกที่ทั่วโลก”