เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ร่วมกับภาคีเครือข่าย เปิดหลักสูตร ‘ออมสุขภาพ รับวัยอิสระ’ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนวัยทำงาน อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป หันมาดูแลสุขภาพอย่างครบเครื่อง เตรียมพร้อมก่อนเกษียณอายุ
นางประภาศรี บุญวิเศษ กรรมการ สสส. และประธานกรรมการบริหารแผน คณะที่ 5 สสส. เปิดเผยว่า จากรายงานสุขภาพคนไทย ประจำปี 2566 พบคนทำงานมีพฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพถึง 4 เรื่อง ด้วยกัน ได้แก่ พฤติกรรมการสูบบุหรี่จัด, การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ, การกินอาหารนอกบ้านจากร้านหรือตลาด ที่หวาน มัน เค็มมากๆ และมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอ จึงเห็นถึงความจำเป็นในการต้องเร่งสร้างกลไกเพื่อจัดการกับปัญหา
“หลังจากที่มีการสร้าง “ผู้นำสุขภาพ” ให้เกิดขึ้นในองค์กร กว่า 200 องค์กร เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน “องค์กรสุขภาพดี” ทั่วประเทศแล้ว สสส. สานพลังเครือข่ายคนไทยไร้พุง วางกลไกสนับสนุนการดำเนินงานของผู้นำสุขภาพ โดยการสร้าง “นักออมสุขภาพ” เป็นบุคคลต้นแบบในการดูแลสุขภาพในองค์กรและสมาชิกในครอบครัว ถือเป็นหลักสำคัญในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพพนักงานในองค์กร ที่ส่งผลถึงการมีสุขภาพดีในวัยเกษียณ รองรับสังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์” นางประภาศรี กล่าว
ศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี นิธิยานันท์ ประธานเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า หลักสูตรต้นแบบ “ออมสุขภาพ รับวัยอิสระ” ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนวัยทำงาน ดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลไปถึงการมีสุขภาพดีในวัยเกษียณ โดยเนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการบริโภคที่ดีต่อสุขภาพ การเพิ่มกิจกรรมทางกาย/ออกกำลังกาย การสร้างสุขภาวะทางอารมณ์ การสร้างความมั่นคงทางการเงิน และการท่องเที่ยว/เดินทางอย่างสุขภาพดี
ด้าน รศ.นพ.เพชร รอดอารีย์ กล่าวในฐานะประธานหลักสูตร ‘ออมสุขภาพ รับวัยอิสระ’ ว่าปัญหาคนวัยทำงานเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หากหันมาดูแลสุขภาพตอนเกษียณอายุ อาจจะช้าเกินไป เนื่องจากโรคต่างๆ ได้ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ตอนวัยทำงาน การป้องกันหรือแก้ปัญหาที่ดี จึงควรเริ่มขณะยังไม่เป็นโรคหรือเริ่มมีสัญญาณเตือนการเกิดโรค คือในช่วงวัยทำงานอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ที่จะมีระยะเวลาประมาณ 10-20 ปี ในการออมสุขภาพ ก่อนวัยอิสระหรือวัยเกษียณอย่างเพียงพอ
“หลักสูตรแบ่งออกเป็น “ช่วงเปิดบัญชีสุขภาพ” เพื่อประเมินสภาวะร่างกาย ความสุข ความเครียด ความมั่นคงทางการเงิน และรับคำแนะนำในการกำหนดเป้าหมาย แผนในการดูแลสุขภาพ “ช่วงออมสุขภาพ” รับการอบรมและฝึกปฏิบัติการดูแลสุขภาพ ทุกวันศุกร์ทางออนไลน์ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ นัดติดตามผลเดือนละครั้ง และทำกิจกรรมต่างๆ กับภาคีเครือข่าย เช่น การฝึกโยคะกับครูพี่บอย, การปลูกผัก-ทำสวนครัวกับสวนผักบ้านคุณตา, การทำอาหารกับเชฟทักษ์ เจ้าของเพจ TUCK the CHEF, การท่องเที่ยวอย่างสุขภาพดีกับทีม Sook Signature Trip ฯลฯ โดยสะสมแต้มสุขภาพผ่านแอปพลิเคชัน Health Coin และ”ช่วงผลตอบแทน” เพื่อรับการประเมิน เปรียบเทียบเป้าหมาบ ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อพิจารณามอบรางวัลเชิดชูเกียรติ ในงาน Healthy Organization Day ที่จัดขึ้นสัปดาห์ที่ 3 เดือนมกราคมของทุกปี”
หลักสูตร ‘ออมสุขภาพ รับวัยอิสระ ในระยะแรกจะเปิดโอกาสให้กับพนักงานองค์กรที่เคยเข้าอบรมหลักสูตรผู้นำสุขภาพในสถานที่ทำงานกับเครือข่ายมาก่อน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้นในส่วนของการร่วมกิจกรรมตามอัธยาศัย มีค่าใช้จ่ายที่ได้รับส่วนลดพิเศษ ส่วนรุ่นต่อๆไป สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก : เครือข่ายคนไทยไร้พุง หรือ อีเมล : raipoong@gmail.com
“การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ปลอดโรค ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่จะปฏิบัติเป็นครั้งคราวอย่างไม่มีจุดหมาย แต่จำเป็นต้องตั้งเป้าหมาย วางแผนปฏิบัติให้ชัดเจนอย่างเป็นระบบ เปรียบเสมือนการเปิดบัญชีสุขภาพ ตั้งเป้าหมายสุขภาพ และเริ่มเก็บออมความรู้ ฝึกปฏิบัติพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง สะสมไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็จะให้ผลตอบแทนการออมสุขภาพออกมาในระยะยาว ซึ่งจะต้องทำคู่ขนานไปกับการวางแผนด้านการเงินเพื่ออนาคต หรือกล่าวได้ว่า เก็บออมสุขภาพตั้งแต่วันนี้ เพื่อความมั่งมีทั้งสุขภาพกาย ใจ การเงินในวันหน้า หรือ Save your health, Save your wealth” รศ.นพ.เพชร กล่าวทิ้งท้าย