คิวเฟรช (Qfresh) ภายใต้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก นายธนโชติ บุญมีโชติ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจกุ้ง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดงาน Qfresh’s Table The Journey of Perfection โดยมีเซเลบริตี้เชฟ เจมมี่เจมส์ หรือ เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ มาร่วมออกเดินทางเพื่อค้นพบเรื่องราวสู่ความเป็นเพอร์เฟคชั่น ที่เกิดขึ้นกับวัตถุดิบชั้นเลิศ ตั้งแต่การค้นหาและพัฒนาจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์คิวเฟรชที่มีคุณภาพสูงสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็น Sourcing, Developing, Expertise process และ Magical cooking ในครั้งนี้วัตถุดิบจากคิวเฟรชอย่าง ปลากะพง จะถูกรังสรรค์โดยเซเลบริตี้เชฟ เจมมี่เจมส์ กับอาหารสไตล์สเปนิช 2 เมนู พร้อมเสิร์ฟให้แขกที่มาร่วมงานได้สัมผัสความอร่อยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ณ ร้าน Copper Beyond Buffet สาขา The Sense ปิ่นเกล้า ที่ผ่านมา
จากความตั้งใจที่ คิวเฟรช ต้องการการพัฒนาอาหารทะเลแช่แข็ง (Frozen Seafood) ขึ้นมาเพื่อตอบสนอง ความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคด้วยวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยาก ซึ่งจุดเด่นของผลิตภัณฑ์คิวเฟรช คือคุณภาพและเนื้อสัมผัสที่ดี ใกล้เคียงของสด โดยผ่านกระบวนการคัดสสรวัตถุดิบและขั้นตอนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้มาตรฐานโรงงานระดับสากล จึงมั่นใจในความสะอาด ถูกหลักอนามัย ปลอดภัยได้มาตรฐาน ทั้งแหล่งที่มาและโรงงานที่สำคัญยังปลอดภัยไม่มีฟอร์มาลีน และวัตถุกันเสีย เพียงแค่นำไปละลายน้ำแข็ง นำไปอุ่น หรือทอด จัดวางใส่จาน เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ ตามคอนเซ็ปต์ ที่ใครทำก็อร่อย
กว่าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์ คิวเฟรช นั้นต้องผ่านกระบวนการที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน โดยเริ่มจาก Sourcing การค้นหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง สะอาด ปลอดภัย สามารถตรวจสอบได้ โดยคิวเฟรชได้ติดต่อกับผู้ผลิตโดยตรง และมีการเดินทางไปยังแหล่งผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบทางทะเล รวมถึงแหล่งวัตถุดิบที่มีตามฤดูกาลเนื่องจากในช่วงเวลานั้นวัตถุดิบจะมีคุณภาพมากที่สุด และแหล่งที่มานั้นต้องมีมาตรฐานรับรองคุณภาพ Developing คือการพัฒนาและปรับความสมดุลให้กับแหล่งวัตถุดิบ อย่างเช่น ปลากะพง จากฟาร์มปลา ที่ใส่ใจตั้งแต่การพลิกหน้าดินก้นบ่อหลังจากจับปลาชุดเก่าออก เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียในน้ำ ก่อนนำปลาชุดใหม่ลงบ่อ ในการจับปลาเมื่อโตเต็มวัยก็ต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อไม่ให้ปลาเครียด และนำไปไว้ยังจุดพักปลาก่อนที่จะทำการแล่ปลาในรูปแบบ อิเคะจิเมะ คือการแล่ปลาแบบให้ตายทันทีโดยทำลายส่วนสมอง และต้องจับไม่ให้ดิ้นตื่นตกใจ พร้อมกับรีบเอาเลือดปลาออก รวมถึงความสะอาดของทุกขั้นตอนด้วย ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ทำให้เนื้อปลาไม่คาวและไม่มีกลิ่นโคลน จึงทำให้เนื้อปลามีรสชาติหวาน อร่อย ได้รับสารอาหารและแร่ธาตุครบ การลดอุณหภูมิปลาเพื่อฆ่าเชื้อภายนอกและส่วนต่าง ๆ ควรมีอุณหภูมิอยู่ที่ -1 ถึง -2 องศา โดยน้ำแข็ง Ozone Slurry Ice ที่มีลักษณะเหมือนกับสเลอปี้จะให้ความเย็นได้มากกว่าน้ำแข็งชนิดอื่น และ เก็บรักษาปลาได้นานขึ้น ซึ่งวิธีการ Wet aged เป็นวิธีที่เกิดขึ้นครั้งแรกในไทยด้วย Expertise process หลังจากได้วัตถุดิบมาแล้ว เข้าสู่ขบวนการจัดเตรียมแช่แข็งแบบ Individual Quick Freezing (IQF) ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษาคุณภาพของอาหารทะเลที่ยังคงความสด รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการไว้อย่างดี และนำเข้าสู่การบรรจุภัณฑ์ที่มีมาตรฐานสูงเพื่อป้องกันการปนเปื้อนและรักษาคุณภาพระหว่างการขนส่ง หลังจากนั้นจะถูกเก็บในห้องเย็นที่ควบคุมอุณหภูมิคงที่ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่วัตถุดิบจะถึงมือผู้บริโภค ส่วนการแยกจัดเก็บก็สำคัญเนื่องจากวัตถุดิบแช่แข็งแต่ละชนิดใช้อุณหภูมิเก็บแตกต่างกัน เพื่อรักษาคุณภาพของเนื้อสัมผัส แม้แต่การนำวัตถุดิบออกมาใช้ควรใช้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังละลาย Magical cooking ขั้นตอนการเดินทางสู่จุดหมายปลายทาง ด้วยการรังสรรค์เมนูให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งเชฟแต่ละคนมีความถนัดในการใช้วัตถุดิบที่แตกต่างกัน คิวเฟรชจึงสรรหาเชฟให้เหมาะกับวัตถุดิบของคิวเฟรช เพื่อรังสรรค์ให้เป็นอาหารจานพิเศษอันเลิศรส แต่ยังคงคุณภาพตามกระบวนการ ที่ผ่านความเพอร์เฟคชั่นในทุกขั้นตอน จนกลายมาเป็นเมนูสุดพรีเมี่ยมในงานนี้ ซึ่งรังสรรค์โดยเชฟ Haikal Johari จากร้าน Copper Beyond Buffet ได้แก่
Hokkaido Scallop Hijiki Seaweed Sesame Passionfruit: หอยเชลล์ฮอกไกโดที่คัดพิเศษ ทานคู่กับสาหร่ายฮิจิกิ ราดซอสเสาวรสเพิ่มคสามสดชื่น โรยด้วยงาดำ
Hay Smoked Wet Aged Seabass: ปลากะพงที่มีคุณภาพนำมารมควันให้มีกลิ่นหอม ทานคู่กับองุ่นมัสกัตและคาเวียร์ ก่อนที่ลิ้นจะสัมผัสจะได้กลิ่นมะเขือเทศ เพื่อสร้างรสชาติอีกด้วย
Wet Aged Seabass Tatare: ปลากะพงขาวหมักน้ำปลา ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับกุ้งอาร์เจนตินา กัซปาโช บรี น้ำมันออย ท็อปิ้งด้วยไอศกรีม ทำให้เมนูนี้มีความละมุนรสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น
Wet Aged Seabass Roulade: ปลากะพงขาวคุณภาพ ราดด้วยซอสริโซนี ความเปรี้ยวจากมะนาวและความหอมจากซากุระเอบิ ทำให้จานนี้มีความสดชื่น
นอกจากนี้ยังมีเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเซเลบริตี้เชฟ เจมมี่เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ มาร่วมรังสรรค์ในครั้งนี้ด้วย เจ้าตัวกล่าวถึงความรู้สึกในครั้งนี้ว่า “สำหรับการรับหน้าที่มาเป็นเชฟในครั้งนี้ รู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ได้ร่วมงานกับคิวเฟรช ผมเองชื่นชอบเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบมานาน โดยส่วนตัวผมหลงใหลการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งการได้เห็นคนในครอบครัวและเพื่อน ๆ มีความสุขกับอาหารที่ผมทำ นั่นคือการแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่น และพยายามพัฒนาฝีมือการทำอาหารควบคู่ไปกับการทำงานในวงการบันเทิงด้วย ผมเป็นคนที่ชอบไปเที่ยวสเปนมาก เมื่อปลายปีที่แล้วผมก็ไปอยู่เป็นเดือนเพื่อศึกษาเกี่ยวกับอาหารสเปนิชโดยเฉพาะ ก็เคยคิดว่าถ้าที่ไทยมีวัตถุดิบที่ดี ๆ ก็อยากนำมาทำเป็นอาหารของเราบ้าง ครั้งนี้ผมได้โจทย์มาเป็น ปลากะพง และ กุ้งอาร์เจนติน่า จากคิวเฟรช ผมมีโอกาสได้ลองชิม…นี่แหละใช่เลย! จึงเป็นวัตถุดิบหลักในวันนี้ โดยมาผสมผสานความเป็นสเปนิชเข้าไป เพื่อให้เป็นเมนูเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับทุกท่านได้ชิมกัน มีทั้งหมด 2 เมนู คือ
- Seabass Trio: การนำปลากะพงมาคุ๊กกิ้ง 3 แบบ 3 รสชาติเสิร์ฟมาในจานเดียว ประกอบด้วย
- Seabass El Ajilloคำนี้จะเหมือนกุ้งกระเทียมของทางสเปน แต่เราจะใช้เป็นปลากะพงแทน นำเนื้อปลาไปแช่ในน้ำมันกระเทียมก่อนแล้วทานคู่กับกระเทียมย่างและมะเขือเทศ เมื่อทานคู่กันจะทำให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น
- Seabass Tostadaจะผสมความเป็นเม็กซิกันหน่อย ๆ ตัวเนื้อปลาจะแช่ในน้ำซอสโชยุก่อน ซึ่งสามารถทานดิบได้เลย เมื่อทานแล้วจะมีความสดชื่นขึ้น
- Smoked Seabass Tortilla Espanolaเป็นการนำปลากะพงไปรมควัน เพื่อให้มีความหอม นำไปท็อปปิ้งบนมันฝรั่ง ในจานจะเสิร์ฟคู่กับมะนาวสามารถบีบเพื่อเพิ่มรสชาติในคำนี้ได้
- Pealla La Argentina (Argentinian Shrimp): ในจานนี้อยากให้ทุกคนเข้าถึงอาหารสเปน เลยทำเป็นตัว ปาเอย่า (Pealla) แต่เพิ่มความฉ่ำด้วยน้ำสต็อกจากหัวกุ้ง ซึ่งจะทำให้ข้าวมีความหอมแล้วท็อปปิ้งด้วยกุ้งอาร์เจนติน่าที่มีความหวาน นำมาเผาเพื่อเพิ่มความหอมของกุ้งขึ้นไปอีก โดยสามารถบีบมะนาวเพื่อตัดเลี่ยน และทำให้ชาติมีความกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ทั้ง 2 จานนี้ มาจาก 2 แหล่งวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทุกเมนู การเลือกใช้วัตถุดิบจากคิวเฟรชนั้นทำให้ผมมั่นใจว่าเมนูที่ผมทำจะช่วยยกระดับรสชาติ และคุณภาพของอาหารได้อย่างดี เพราะความสดใหม่ที่ยังคงคุณภาพของวัตถุดิบจะทำให้เมนูที่รังสรรค์ขึ้นมามีรสชาติกลมกล่อมและเนื้อสัมผัสที่ดี เมนูในวันนี้จึงเป็นเมนูที่ผมตั้งใจคิดและทำอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ออกมาเป็นจานที่สมบูรณ์แบบสำหรับค่ำคืนนี้ และหวังว่าทุกท่านที่ทานครบทั้ง 2 เมนูนี้แล้วจะถูกใจไม่มากก็น้อยนะครับ” เจมมี่เจมส์ กล่าวปิดท้าย
นอกจากนี้ทางร้าน Copper Beyond Buffet ยังได้จัด 4 เมนูนี้เป็นเมนูใหม่สุดพรีเมียม อย่าง WET AGED SEABASS TATARE, HAY SMOKED SEABASS, WET AGED SEABASS ROULADE และ BOSTON LOBSTER จะถูกนำมาเสิร์ฟในไลน์บุฟเฟ่ต์ เพื่อให้รับประทานกันอย่างเต็มอิ่ม
สำหรับผลิตภัณฑ์ คิวเฟรช สามารถหาซื้อได้ที่ แม็คโคร, โลตัส, บิ๊กซี, เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, กูร์เมต์ มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ www.qfreshshop.com รวมถึง Lazada, Shopee (กดเสิร์ซ Qfresh Shop) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ ID: @Qfresh หรือ Facebook: Qfresh Shop facebook.com/qfreshshop.th
#QFRESH #คิวเฟรช #QfreshXJamyjamess #QfreshTable #QfreshTableTheJourneyofPerfection #ปลากะพง #cheftable #jamyjamess