
เรียกได้ว่าเป็นการฉลองแบบยิ่งใหญ่ สำหรับธุรกิจใหม่ของสามีภรรยาสุดฮอต “เป๊ก สัณณ์ชัย” และ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล” ที่หันมาจับธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งด้านสามีก็รุกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แบรนด์ไทยแต่รสชาติไม่แพ้ต่างชาติอย่าง “บะหมี่มาเฟีย” พร้อมด้วยคอนเซ็ปท์เผ็ดถูกลิ้นคนไทย พร้อมสูตรลับพริกสามสหาย ที่ตอนนี้เสียงตอบรับจากผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศพูดเป็นเสียงเดียวว่า “รสชาตินี้ที่ต้องการ” ด้านคุณภรรยาก็รุกหนักในด้าน “อาหารเสริม” ที่มีทั้ง ญาลีญ่า ไฟเบอร์, ไลโปวิตามินซี, นมผึ้ง แม้จะเปิดตัวได้เพียงไม่นาน แต่ลูกค้าก็มาซื้อแล้ว ซื้ออีก และซื้อซ้ำ โดยภายในงาน “บะหมี่มาเฟีย & ญาลีญ่า ฉลองยอดขายตามใจปรารถนา” ที่จัดขึ้นที่ร้าน As You Wish ถ.ประเสริฐมนูกิจ ไปเมื่อวันก่อน ทั้งคู่เปิดใจถึงความสำเร็จของธุรกิจนี้ พร้อมเป้าหมายในอนาคต และเคล็ดลับความปังจากการมูในครั้งนี้
“มาเฟียเป็นบะหมี่น้องใหม่ รสชาติเผ็ดที่ไม่ใช่แบบเกาหลี แต่เป็นสไตล์ไทย ย้ำอีกทีนะครับ มาเฟีย ที่ไม่ใช่ผมนะ (ยิ้ม) มาเฟีย คือพริก 3 ชนิด เป็นพริกที่มีความเผ็ดมาก เป็นพริกที่มีสีสวยมาก และเป็นพริกที่มีความหอมมาก คือรวมเป็นมาเฟียของพริก เป็นเส้นอบ ธุรกิจอันนี้คือที่ทำออกมา เพราะตอนนี้เป็นช่องว่างของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ยังไม่สามารถไปสู้กับเกาหลีได้เลย จึงทำรสชาติไทย ความเผ็ดของไทยไปสู้เกาหลีให้ได้ นอกจากยอดขายที่เกินคาดแล้ว แต่สิ่งนึงที่คนชอบคือรสชาติ เพราะเรากลัวว่าจะสู้ต่างชาติไม่ได้ เราจะคงคอนเซ็ปท์มาเฟียต้องเผ็ด แต่เผ็ดมาก เผ็ดน้อยก็แล้วแต่ เพราะมีหลายรสให้เลือก”
“ซึ่งก็ยืนยันว่าคำว่ามาเฟีย ไม่ได้มาจากเรา มันบังเอิญมากกว่า (ยิ้ม) แต่ก็คนมีคนแซวเยอะ เราก็อธิบายว่ามาจากสรรพคุณของพริก” เป๊กสัณณ์ชัยกล่าว
ด้าน “ธัญญ่า” ผู้บริหารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เล่าถึงความสำเร็จในวันนี้ กว่าจะปัง พร้อมเทคนิคการมูยังไงให้ยอดทะลุเป้า
“ในส่วนของญาลีญ่า ไฟเบอร์ พอเรากินแป้งเยอะ เราก็ต้องหาวิธีจัดการให้ออก จะได้ลดพุง รสชาติเหมือนเมล่อน นำเข้าจากสเปน และผิวต้องสวย ด้วยไลโปวิตามินซี เป็นการดูดซึมได้ดี 4 เท่า เหมาะกับคนที่รักษาสุขภาพ ช่วยภูมิแพ้ ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์เราจะดีแล้ว เราเองก็ไปมูที่ฮ่องกง และไปไอ้ไข่ ไปขอเรื่องธุรกิจล้วนๆ เราจะไปสายสร้างพระ พี่เป๊กก็จะไปสายสร้างวัด (อันนี้ตั้งเป้า 1,000 ล้าน หรือเปล่า?) ซึ่งเราก็ไปขอและตั้งเป้าในเรื่องยอดขาย ให้ทะลุเป้าตามใจปรารถนา”
“ซึ่งเราสองคนก็คิดว่ามาทางอาหารดีกว่า พี่เป๊กไปทางอาหาร เราเองก็มาทางอาหารเสริม เพราะก็ทำมาหลายแบบแล้ว ก็เจ๊งกระโบ๊ง แต่การที่เรามาจับธุรกิจนี้ เพราะดูแล้วมันค่อนข้างยั่งยืน”