พฤติกรรมการขับรถเป็นปัจจัยที่ช่วยเปรียบเทียบ ประกันรถยนต์ได้
ปัจจัยในการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่เราควรพิจารณา นอกจากความคุ้มครองที่คุ้มค่าสมเหตุสมผลกับ ราคาค่าเบี้ยประกันแล้ว เรายังต้องเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่เหมาะกับความต้องการ และพฤติกรรมการขับรถของตัวเองด้วย เพื่อช่วยให้มั่น ใจได้ว่าเบี้ยประกันที่เราจ่ายไปนั้น จะไม่สูงหรือน้อยจนเกินไปกับความต้องการของเรา วันนี้เราจึงมีตัวอย่างเปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น 1 และชั้น 2 ว่าเหมาะกับพฤติกรรมการขับรถแบบไหนบ้างมาฝากกัน
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับผู้ขับขี่แบบไหน
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประเภทของประกันที่มีความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกัน รถยนต์คู่กรณีหรือแม้แต่ทรัพย์สินของบุคคลที่สาม ประกันชั้น 1 ยังครอบคลุมถึงอุบัติเหตุที่เกิดจากการชน พัง การพลิกคว่ำ การสูญหาย หรือไฟไหม้รวมถึงความคุ้มครองในกรณีที่ไม่มีคู่กรณีเช่น การชนเสาหรือกำแพง ชนต้นไม้เป็นต้น ซึ่งจะเหมาะกับพฤติกรรมผู้ขับขี่ดังนี้
● ผู้ไม่มั่นใจในการขับขี่ผู้ที่เป็นมือใหม่หัดขับ ขาดประสบการณ์การขับขี่หรือผู้ขับขี่ที่เคยมีอุบัติเหตุใน อดีต แล้วรู้สึกว่าตัวเองยังไม่มั่นใจในการกลับมาขับขี่เต็มที่จนอาจเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ง่าย กว่าผู้ที่มีความชำนาญการหรือมั่นใจในการขับขี่การเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ครอบคลุมแม้ไม่มีคู่กรณีก็สามารถช่วยให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้
● ผู้ต้องขับรถในพื้นที่เสี่ยง ถ้าเราจำเป็นต้องขับรถในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นหรือมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง เช่น ในเมืองหรือถนนหลวง การเลือกประกันชั้น 1 ที่ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย ทำให้เราอุ่นใจเรื่องค่าซ่อมแซมรถยนต์ได้
● ผู้ชอบขับรถเร็ว แม้จะมั่นใจในฝีมือขับรถของตัวเองมาก มั่นใจว่าสามารถควบคุมระยะความปลอดภัยได้แต่เราไม่ได้ขับรถคนเดียวบนถนน ผู้ขับขี่ร่วมทางอาจจะไม่รู้ว่าเราจะตัดสินใจในการปรับเปลี่ยนเส้นทางแบบไหน ซึ่งอาจจะเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น การทำประกันชั้น 1 ที่ครอบคลุมทุกเรื่องอาจช่วยให้เราประหยัดค่าเสียหายได้มากกว่า
ประกันรถยนต์ชั้น 2 เหมาะกับผู้ขับขี่แบบไหน
ประกันรถยนต์ชั้น 2 มีความคุ้มครองน้อยกว่าประกันชั้น 1 แต่ยังคงครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของผู้เอาประกันและรถยนต์คู่กรณีรวมถึงความคุ้มครองต่อทรัพย์สินของบุคคลที่สาม แต่จะไม่ครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการชนที่ไม่มีคู่กรณีหรือกรณีการสูญหายและไฟไหม้ซึ่งจะเหมาะกับพฤติกรรมผู้ขับขี่ดังนี้
● ผู้ขับขี่มีความชำนาญ ผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์และประวัติการขับขี่ที่ดีสามารถควบคุมการขับรถได้อย่างปลอดภัย และมีความมั่นใจในการขับขี่การซื้อประกันชั้น 2 ที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการชนแบบไม่มีคู่กรณีเช่น ชนต้นไม้หรือฟุตบาท เป็นต้น
● ใช้รถในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ ถ้าเราใช้รถในพื้นที่ที่มีการจราจรน้อย ถนนโล่ง หรือมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่ำ เช่น ชานเมืองหรือถนนในชนบท การทำประกันชั้น 2 ก็อาจจะเพียงพอกับความคุ้มครองที่ต้องการแล้ว
● ขับขี่เส้นทางเดิมทุกวัน การใช้รถเพียงไปทำงานใกล้ๆ ที่เส้นทางที่เราคุ้นเคย อาจลดการเกิอุบัติเหตุ ที่เกิดจากตัวเราเองหรือแบบไม่มีคู่กรณีได้การทำประกันชั้น 2 ที่ไม่ครอบคลุมอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีก็อาจจะเพียงพอกับความคุ้มครองที่ต้องการแล้ว
สรุป การเปรียบเทียบประกันรถยนต์จากพฤติกรรม
จากตัวอย่างพฤติกรรมการขับรถหรือใช้รถที่เรานำมาแนะนำว่าเหมาะกับประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้น 2 นั้นเป็นส่วนหนึ่งในปัจจัยช่วยพิจารณาการทำประกันได้เหมาะกับความต้องการของตัวเอง โดยไม่เสียค่าเบี้ยประกันที่สูงเกินกำลังของเราได้เท่านั้น แต่ความจริงแล้วการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้ได้ราคาเบี้ยประกันที่เหมาะสม กับความต้องการยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น ยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ที่จะถูกใช้มาคำนวณค่าเบี้ยประกันชั้น 1 ชั้น 2 นั้นเอง