การหารายได้เสริมเพิ่มเติมจากงานประจำที่ทำอยู่อาจเป็นอะไรที่หลายๆ คนกำลังมองหา เพื่อสร้างความมั่งคั่งทางการเงินให้ตนเองเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในยุคนี้ที่โลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นทุกวันๆ และเพื่อส่งเสริมให้กลุ่มคนรุ่นใหม่มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริหารการเงินอย่างเหมาะสม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในชีวิต กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล จึงจัดกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ด้านการบริหารการเงินและการสร้างวินัยทางการเงินที่ดี รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถหารายได้เพิ่ม ภายใต้โครงการ “ฉลาดคิดฉลาดใช้” โดย กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้เชิญ 2 วิทยากรมากประสบการณ์ อย่างเอก-กฤชณัท อ่อนมั่ง ช่างภาพผู้คร่ำหวอดในวงการขายภาพออนไลน์ที่ทำรายได้จากการขายภาพออนไลน์ได้ถึงหลักแสนต่อเดือน มาร่วมถ่ายทอดความรู้ในหัวข้อ “เที่ยวยังไงให้ได้เงิน กับเทคนิคถ่ายภาพทำเงิน” และ โซอี้-ภญ. โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ ผู้สร้างแบรนด์ผ้าพันคอ Zoe Scarf ให้ดังไกลไปถึงต่างประเทศภายในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งปีและเป็น LINE@Certified Trainer คนแรกของประเทศไทย มาแบ่งปันเทคนิคในหัวข้อ “ขายของออนไลน์ยังไงให้เวิร์ก” เพื่อเผยวิธีและเทคนิคการสร้างรายได้เพิ่มบนโลกออนไลน์
ณ Glow Fish ชั้น 2 อาคารสาทรธานี 2
เอก-กฤชณัท อ่อนมั่ง กล่าวว่า “ภาพสวยๆหนึ่งภาพช่วยสร้างรายได้แบบไม่รู้จบให้เราได้ เพราะทุกวันนี้มีเว็บไซต์ที่ให้บริการขายภาพออนไลน์หรือที่เรียกว่าไมโครสต็อก (Microstock) มากมาย อาทิ www.shutterstock.com, www.istockphoto.com, www.fotolia.com, www.dreamstime.com และ www.depositphotos.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างช่างภาพที่นำภาพมาลงขายกับลูกค้าที่ต้องการซื้อภาพ โดยข้อดีของการขายภาพออนไลน์คือ ไม่มีวันหมดอายุ สามารถขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะลูกค้ามีอยู่ทั่วโลก ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเป็นบริษัทผลิตสื่อรูปแบบต่างๆ อาทิ สื่อโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ หรือนักพัฒนาเว็บไซต์ โดยถ้าย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หากบริษัทเหล่านี้ต้องการจะใช้รูปภาพประกอบในการทำงานก็มักจะจ้างช่างภาพ, นางแบบ, นายแบบ รวมถึงกราฟฟิกดีไซเนอร์เพื่อมาถ่ายภาพให้ได้ตามที่ต้องการ แต่เมื่อมีธุรกิจบริการขายภาพออนไลน์เกิดขึ้น บริษัทเหล่านี้จึงหันมาเลือกซื้อภาพจากคลังภาพออนไลน์มาใช้ เพราะสะดวกสบายกว่า ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนในการถ่ายทำอีกด้วย”
“สำหรับวิธีการเริ่มต้นขายภาพออนไลน์ สิ่งแรกที่เราจำเป็นต้องมีก็คือ กล้องถ่ายภาพ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นกล้องราคาแพง อาจจะเริ่มต้นจากกล้องมือถือก่อนก็ได้ ต่อมาสิ่งที่เราต้องมีคือไอเดียในการถ่ายภาพ ต้องมีการวางแผน อย่างเวลาเราจะไปเที่ยวเราก็ต้องทำการบ้านก่อนว่า เราจะไปเที่ยวที่ไหนไปกับใคร ต้องนำอุปกรณ์ประกอบฉากอะไรไปเพิ่มเติมหรือไม่ โดยทำได้จากการไปหาภาพตัวอย่างในเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปวิว สถานที่ รูปกิจกรรมต่างๆ เช่น เราไปเที่ยวทะเลกับครอบครัว
ก็อาจจะถ่ายภาพครอบครัวเล่นทรายกันอยู่ริมทะเล สิ่งที่เราต้องเตรียมไปก็คือ อุปกรณ์เล่นทราย การจัดรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้จะช่วยเสริมให้ภาพของเราสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งส่วนสุดท้ายที่สำคัญมาก คือการใส่คีย์เวิร์ดในการลงขายภาพ เพราะคีย์เวิร์ดที่ดีจะทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาภาพของเราเจอได้ง่ายขึ้น เริ่มต้นง่ายๆเพียงแค่นี้เราก็อาจจะสามารถเปลี่ยนการท่องเที่ยวของเราเป็นรายได้กลับมาได้ด้วยครับ” ทางด้านโซอี้-ภญ. โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ กล่าวเสริมว่า “ประเทศไทยมีการใช้โซเชียลมีเดียเยอะเป็นอันดับต้นๆของโลก ทำให้หลายๆธุรกิจหันมาให้ความสนใจการทำธุรกิจผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น หลายๆคนก็เริ่มมองหาอาชีพเสริมหรือต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเองบนโลกออนไลน์ แต่ปัญหาที่คนเริ่มต้นธุรกิจมักเจอคือไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ไม่รู้จะขายอะไรข้อแนะนำง่ายๆ เลยคือให้มองหาจากสิ่งที่เราชอบหรือสิ่งที่เราถนัด แต่สำหรับบางคนที่ยังตอบไม่ได้ว่าตนเองชอบหรือถนัดด้านไหน ให้ลองหาวิธีการหรือสินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาของคน โดยเริ่มมองดูจากปัญหาที่เราพบเจอและหาวิธีการแก้ปัญหานั้นๆ อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของคนเริ่มต้นธุรกิจเลยคือเรื่องเงินลงทุน สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นจากเงินทุนน้อยให้เริ่มจากการขายของมือสองของเรา หรืออาจจะเริ่มด้วยการทำ Drop shift คือ การเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบไม่ต้องสต็อกสินค้า พอเราเริ่มขายได้มีทุนเพิ่มขึ้นเราก็สามารถนำมาต่อยอดทำธุรกิจอื่นต่อได้อีก เข้าใจง่ายๆคือให้เริ่มต้นธุรกิจแบบคิดให้ใหญ่และเริ่มให้เล็กก่อน แล้วถ้าเรามีธุรกิจแล้วสิ่งต่อไปที่เราต้องทำคือการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียค่ะ”
“ภาพรวมของธุรกิจออนไลน์ ปัญหาแรกที่คนส่วนใหญ่มักจะเจอคือจะทำอย่างไรให้คนรู้จักเรา สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องรู้ คือ เรื่องคีย์เวิร์ด เพราะการใช้คีย์เวิร์ดที่ดีทำให้คนหาเราเจอบนโลกออนไลน์ง่ายขึ้น เครื่องมือที่ใช้ได้ฟรีและดีมากๆที่อยากแนะนำ คือเครื่องมือที่ชื่อว่า Google Trends เราสามารถนำคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราไปหาในเว็บไซต์ Google Trends เพื่อดูว่าคำไหนคนเข้ามาค้นหากันเยอะ เราก็ควรนำคำเหล่านั้นมาใส่ไว้ในชื่อเพจรวมถึงข้อความต่างๆ เพื่อทำให้เวลาคนค้นหาคำเหล่านั้นจะพบหน้าเพจของเราปรากฏอยู่ด้วย ต่อมาสิ่งที่ควรทำต่อคือการซื้อโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก และสองคือการเลือกใช้บุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก (Influencer) ช่วยรีวิว ซึ่งทั้งสองวิธีเป็นสิ่งที่เราต้องทำควบคู่กันไป เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ได้ตัดสินใจซื้อตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นโฆษณา แต่มักจะหาการรีวิวประกอบการตัดสินใจไปด้วย ซึ่งในปัจจุบันการทำโฆษณาไม่ได้มีเพียงแค่บนเฟซบุ๊กช่องทางเดียว อีก 1 ช่องทางที่น่าสนใจและมาแรงในช่วงนี้ก็คงหนีไม่พ้นไลน์แอด (Line@) อย่างที่เราทราบกันดีว่าไลน์มีหลายเซอร์วิส เซอร์วิสหนึ่งของเขามีชื่อว่าแชท แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1.ไลน์ส่วนตัว 2.ไลน์ออฟฟิเชียล และ 3.ไลน์แอด ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับกลุ่ม SME หรือกลุ่มธุรกิจออนไลน์เป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกในการกระจายข่าวสาร และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ครั้งละจำนวนมาก เพียงเท่านี้การสร้างรายได้บนโลกออนไลน์ของเราก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วค่ะ”
สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคดี ๆ เกี่ยวกับการบริหารเงิน และกิจกรรมที่น่าสนใจที่จะช่วยให้คุณสร้างรายได้เสริม และบริหารการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะจัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี จากโครงการ “ฉลาดคิด ฉลาดใช้” โดยกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ทาง facebook: ฉลาดคิด ฉลาดใช้ หรือ facebook group: ชมรมคนมีตังค์