เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา “ฯพณฯ วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานรัฐสภา เข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำระดับโลก GLS 2023 (Global Leadership Summit 2023) ในฐานะผู้นำที่เป็นแบบอย่าง และรับรางวัลสุดยอดผู้นำ GLS 2023 Leadership Award สำหรับการประชุมดังกล่าวจัดโดย สภาสหพันธ์รักษาสันติภาพ (United Peace Keepers Federal Council : UNPKFC) ร่วมด้วย คณะกรรมการแห่งชาติจาเมกาเพื่อ UNESCO และ Adventure of Humanity (ก่อตั้งโดย Michael Jackson และ Nelson Mandela) , สมาคมสหประชาชาติ UNA-USA /Coachella Valley Califonia USA Chapeter ร่วมเป็นเจ้าภาพพันธมิตร โดยเป็นการรวมตัวของผู้มีวิสัยทัศน์ และผู้ทรงเกียรติเข้าร่วมกิจกรรม การประชุมสุดยอดผู้นำโลกครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมสันติภาพโลก โดยเน้นย้ำถึงความพยายามในการเป็นผู้นำด้านมนุษยธรรมมากกว่า 165 ประเทศ รวมทั้ง
ซึ่งภายในงาน “ฯพณฯ วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานรัฐสภา ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความร่วมมือในครั้งนี้ว่า สันติสุขและสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องเกิดจากการพูดคุยกันเป็นหลัก “งานนี้การเชิญให้พี่น้องทั่วโลกมาร่วมงานเพื่อสร้างสันติภาพ เพราะในขณะนี้โลกของเรา ต้องการให้ความขัดแย้งหมดไป โดยอาศัยเรื่องของความยุติธรรม ความเข้าใจ การปรึกษาหารือ เป้าหมายหลักเพื่อสร้างสันติภาพ สันติสุขให้มันเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนสิ่งเหล่านี้ต้องประกอบด้วยความยุติธรรม ความเข้าใจกัน”
“ในวันนี้ก็มีหลายหน่วยงานจากหลายภูมิภาค หลายทวีปมาร่วมมือกัน ผมเชื่อว่างานนี้จะทำให้เกิดความเข้าใจที่ดี เพื่อให้เกิดความสุขและสันติภาพ เพราะในตอนนี้โลกเรากำลังเผชิญกับความขัดแย้งกัน ซึ่งงานนี้จัดขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนมีความสุข เป็นการจัดโดยองค์กรของภาคประชาชน และสิ่งสำคัญทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนเป็นที่ตั้ง และการพูดคุยกันเป็นหนทางของการสร้างสันติภาพไปสู่สันติสุข รวมไปถึงความยุติธรรม ถ้าที่ใดไม่มีความยุติธรรม ก็ต้องมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น ไม่มีพื้นที่ใดที่ไม่มีปัญหาแต่เราต้องแก้ด้วยการพูดคุย ไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสีย โดยองค์กรเหล่านี้จะมาพูดคุยกันเพื่อช่วยคลีคลายปัญหา และถ้ามีการพูดจาแบบนี้ขึ้นเรื่อยๆ โลกก็จะมีสันติภาและสันติสุขได้เร็วขึ้น”
ดร.อภินิตา ไชยชนะ ประธานสภาสหพันธ์รักษาสันติภาพ (UNPKFC) ยังได้ให้รายละเอียด ในการประชุมสุดยอดผู้นำระดับโลก GLS2023 (Global Leadership Summit2023) เป็นครั้งที่สองของประเทศไทย ที่ได้รับความร่วมมืออย่างเข้มแข็ง โดยภาครัฐ,เอกชน ,จิตอาสา และภาคีเครือข่ายที่มีวัตถุประสงค์ร่วมกัน มารวมตัวกันเพื่อสร้างสัมพันธ์ภาพ เพื่อง่ายต่อการทำงานและความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน โดยมุ่งเน้นย้ำความร่วมมือเป็นสำคัญ เพราะสันติภาพนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพียงแค่ส่วนใดส่วนเดียว แต่เป็นความร่วมมือที่ต้องขยับ เขยิบ และขยายเครือข่าย ไปสู่ระดับนานาชาติ โดยมีบุคคลสำคัญ และองค์กรระดับโลก ที่เห็นด้วยและให้ความร่วมมือในสิ่งที่เราทำ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยมุ่งเน้นให้ยุวฑูตสันติภาพ (Young Peace Ambassador)ได้มีส่วนร่วมและซึมซับภารกิจในกิจกรรมขององค์กร เพื่อที่ต่อไป กลุ่มความหวัง และอนาคตของโลก ก็คือเยาวชนที่จะเติบโตเป็นผู้นำในอนาคต ขอขอบคุณภาครัฐ ,เอกชน และภาคีเครือข่ายจิตอาสาจำนวนมาก นักเคลื่อนไหวด้านสิทธมนุษยชน นางงาม , นักแสดง , นักการทูต , ผู้มีอิทธิพลต่อสังคม ทั้งในและต่างประเทศ และบุคคลที่อยู่ในที่ลับ ที่ทุ่มเท เสียสละ ทำให้ความสำเร็จในการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสันติภาพในประเทศไทยนั้น ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป