กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.), กลุ่ม we!park และภาคีเครือข่ายพัฒนาเมืองสุขภาวะและชุมชนสุขภาวะ (Healthy Space Alliance) จัดกิจกรรม พัก กะ Park นำร่องอุทยานเบญจสิริ 24 และ 31 มี.ค. นี้ หวังยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมืองให้ ห่างไกลโรค NCDs จุดประกายให้ผู้คนตระหนัก ถึงความสำคัญของสุขภาพ โดยมีพื้นที่สุขภาวะแบบมีส่วนร่วม เข้าถึงง่ายมารองรับ
นางประภาศรี บุญวิเศษ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และประธานกรรมการบริหารแผน คณะที่ 5 สสส. กล่าวว่า สสส. มุ่งสร้างเสริมสุขภาพเพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดีตลอดช่วงชีวิต จากรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2566 พบว่า คนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพใน 4 เรื่อง 1.สูบบุหรี่ 2.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.กินอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ 4.มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งทำให้อัตราการมีกิจกรรมทางกายลดลงจาก 74.6% ในปี 2562 เหลือ 68.1% ในปี 2566 สสส. จึงได้สานพลัง กรุงเทพมหานคร (กทม.) กลุ่ม we!park และภาคีเครือข่ายพัฒนาเมืองสุขภาวะและชุมชนสุขภาวะ (Healthy Space Alliance) ขับเคลื่อนนโยบายพื้นที่สุขภาวะเพื่อให้คนทุกคนเข้าถึงได้ เน้นพัฒนาพื้นที่ตอบโจทย์การใช้งานของชุมชน โดยจะมีการจัดกิจกรรม “พัก กะ Park” กระตุ้นสังคมให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ นำไปสู่การมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ
นิรมล ราศรี ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สสส. และภาคีเครือข่าย พัฒนานวัตกรรมแนวคิดพื้นที่เพื่อสุขภาพที่ดี ชื่อว่า “พื้นที่สุขภาวะ” ปรับพื้นที่ว่าง เส้นทางสัญจร พื้นที่สวนสาธารณะ สวนส่วนกลางชุมชน และพื้นที่ในสถานที่ของทั้งภาครัฐและเอกชน ให้คนในชุมชนบริเวณรอบข้างสามารถใช้ชีวิตได้อย่างกระฉับกระเฉงด้วยความปลอดภัย ที่ผ่านมา ได้จัดอบรมนักพัฒนาพื้นที่สาธารณะมีส่วนร่วมออกแบบพื้นที่สุขภาวะ 2 รุ่น มีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน ขยายผลเป็นนวัตกรรมแนวคิด “พัก กะ Park” เปิดสวนสาธารณะเป็นพื้นที่สะท้อนกระบวนการการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะ 9 ประเด็น เพื่อสร้างความตระหนักในการพัฒนาพื้นที่ของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งในเชิงนโยบาย และเชิงปฏิบัติการ มุ่งเป้าหมายพัฒนาพื้นที่สุขภาวะต้นแบบ 150 แห่งใน 50 เขตพื้นที่กรุงเทพฯ
ยศพล บุญสม หัวหน้ากลุ่ม we!park และผู้ประสานงานเครือพัฒนาเมืองสุขภาวะและชุมชนสุขภาวะ บอกว่าพื้นที่สุขภาวะคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สุขภาพของคนในเมืองดีขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่สังคมไทยกำลังเป็นสังคมผู้สูงวัย และคุณภาพสิ่งแวดล้อมกำลังเข้าขั้นวิกฤติ
“เราเห็นสัญญาณถึงปัญหาขภาพทั้งร่างกายและสภาพจิตใจ ซึ่งหลายเมืองทั่วโลกก็ประสบปัญหานี้ ทำให้เกิดรูปแบบของการพัฒนามากขึ้น แต่สัญญาณเชิงบวกก็มี คือคนให้ความสำคัญเรื่องสุขภาวะมากขึ้น หลังโควิด-19 จะเริ่มเห็นภาคเอกชนที่พยายามผสานพื้นที่สุขภาวะเข้าไปอยู่ในการพัฒนาโครงการ ในหลายๆพื้นที่ เพราะฉะนั้นจะเริ่มเห็นแล้วว่านี่คือโซลูชัน แต่จะทำอย่างไรให้ไปอยู่ในทุกพื้นที่ของเมือง
ซึ่งเรามองว่ากลไกการพัฒนาจะไม่ใช่แค่รัฐอย่างเดียวแล้ว ภาคเอกชนจะเข้ามาพัฒนาต่อจากนี้เพิ่มขึ้น ข้อค้นพบหนึ่งจากการทำงานที่ผ่านมา คือโมเดลการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะมีหลากหลายโมเดลมาก อาจเป็นพื้นที่รัฐลงทุนโดยรัฐ พื้นที่รัฐลงทุนโดยเอกชน หรือแม้กระทั่งพื้นที่เอกชนลงทุนโดยเอกชนเอง อีกประเด็นคือพื้นที่สุขภาวะมีมิติหลากหลาย ทั้งมิติเรื่องช่วยลดมลพิษ เป็นพื้นที่รับน้ำ เป็นพื้นที่อาหาร เป็นพื้นที่เชิงวัฒนธรรม เป็นพื้นที่เชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานของเมือง”
ด้าน พรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ข้อมูลว่า กทม. ร่วมกับ สสส. สนับสนุนนโยบายการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะ เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพคนเมือง ผลักดันให้เกิดพื้นที่สาธารณะเมือง “สวน 15 นาที” ในปี 2566 เกิดเป็นพื้นที่ต้นแบบสวน 15 นาที (Pop Park) กระจายในทุกกลุ่มเขตพื้นที่กรุงเทพฯ 24 แห่ง ทั้งนี้ กทม. เตรียมพัฒนาพื้นที่นำร่อง ร่วมกับสสส. และมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ผ่าน “โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติงานของกรุงเทพมหานคร สวน 15 นาที” เพื่อสานต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานขับเคลื่อนนโยบายสวน 15 นาทีทั่วกรุงเทพฯ ส่งเสริมสุขภาวะทางกายและทางใจให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม
สำหรับกิจกรรม ‘พัก กะ Park’ ในวันที่ 24 และ 31 มี.ค.2567 ณ อุทยานเบญจสิริ มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้เข้าร่วม อาทิ งานเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ,กิจกรรม Green Eco Play เช่น ดนตรีในสวน เดินเมืองดูไม้ ปั่นจักรยาน ซุมบ้า ผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Healthy Space , we park และ city cracker