เปิดม่านแดงให้สดับรับชมบทเพลงไพเราะอมตะร่วมสมัย ให้ผู้ชมได้อิ่มเอมใจกันอีกครั้ง กับคอนเสิร์ตวัฒนธรรมอารมณ์ดี คุณพระช่วยสำแดงสด ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ ๙ โดยการต่อยอดจากรายการคุณพระช่วย ซึ่งออกอากาศมายาวนานกว่า ๑๕ ปี และในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่อ เวชพงศ์โอสถ ภูมิใจเสนอ คอนเสิร์ต “คุณพระช่วยสำแดงสด ๙ รัตนโกสินทร์เรืองรอง” เพื่อเชิดชูยุคทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านบทเพลงอมตะจากเรื่องราววรรณกรรม ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์หลากหลายเรื่องในแต่ละยุค ผสมผสานกับการบรรเลงดนตรีร่วมสมัย ตั้งแต่ยุคสถาปนากรุงเทพมหนครเป็นราชธานี เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดย ๒ หนุ่มอารมณ์ดี เท่ง เถิดเทิง และ พัน พลุแตก ก็รับหน้าที่พิธีกร เรียกรอยยิ้มสร้างเสียงหัวเราะตลอดการแสดงเช่นเคย ซึ่งคอนเสิร์ต คุณพระช่วยสำแดงสด ๙ รัตนโกสินทร์เรืองรอง จัดขึ้นในช่วงเทศกาลวันแม่ ๙ – ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๒ ณ โรงละคร เคแบงก์ สยามพิฆเนศ ชั้น ๗ สยามสแควร์วัน เรียกว่าเป็นของขวัญที่พิเศษที่สุดสำหรับคุณแม่ทุกท่าน
ความสนุกเริ่มต้นขึ้นเมื่อม่านแดงเปิดด้วยโชว์เปิดเวที กับบทเพลงสนุกสนาน เพลง “โทน” ร้องโดย เต้ย จักร์รินท์ ศิลา นักร้องหนุ่มเสียงอ้อนจากเวทีไมค์ทองคำ และ ไตเติ้ล เตชิต พรนิธิดล หรือChitswift ศิลปินแร็ปเปอร์จากรายการเดอะแร็ปเปอร์ ซีซั่น ๑ ที่งานนี้ทั้งร้องและเต้นสุดพลัง เรียกเสียงกรี๊ดดังสุดๆจากเหล่าบรรดาแม่ๆ ที่ยกขบวนกันมาเชียร์ติดขอบเวที ต่อด้วยบทเพลงอมตะ “กรุงเทพราตรี” เป็นบทเพลงที่ถ่ายทอดความงดงามของกรุงเทพ ที่เป็นนครมหาธานี อาณาจักรที่มีความรุ่งเรือง เป็นเมืองสวรรค์ของชาวไทย ร้องโดย อาร์ม กรกันต์ สุทธิโกเศศ ถ่ายทอดพลังเสียงได้อย่างไพเราะจับใจ และอีก ๑ บทเพลงอมตะอย่าง “บัวขาว” ร้องโดย แนน สาธิดา พรหมพิริยะ สาวเสียงใสที่มาพร้อมกับโชว์ระบำพัดอ่อนหวาน ทำให้เพลงบัวขาวมีชีวิตชีวาอย่างน่าอัศจรรย์ เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมดังกระหึ่ม ความไพเราะยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เสียงกรี๊ดเสียงปรบมือก็ดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อนักร้องหนุ่มเสียงนุ่ม กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี ปรากฎตัวออกมาในชุดธีมท่านชายจากสมัยรัชกาลที่ ๕ เรียกว่าหล่อสะกดใจคนดูทั้งโรงละครกันเลยทีเดียว งานนี้โชว์พลังเสียงในเพลงรัก “หากรู้สักนิด” เพลงดังอมตะที่ฟังกี่ครั้งก็ไพเราะจับใจ ทำเอาผู้ชมทั้งโรงละครรู้สึกเหมือนตกหลุมรักอีกครั้ง ตามมาด้วยเพลงรักหวานซึ้ง เพลง “คนละภพ” ที่ควงคู่แนน สาธิดา ออกมาถ่ายทอดบทเพลงได้อย่างหวานซึ้งจับใจ จากนั้นมาฟังเสียงเพราะๆ จาก ปุ้ย ดวงพร พงศ์ผาสุก นักร้องคุณภาพคับแก้ว กับบทเพลง “สี่แผ่นดิน” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวและศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่า รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนในยุคนั้นที่อาศัยอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสัมภารอย่างร่มเย็นเป็นสุข
นอกจากนี้ ยังมีเพลงคลาสสิกอย่าง นกเขาไพร – แสนแสบ – ศรรัก – คู่กรรม – เงินเงินเงิน – แค่คืบ – แผ่นดินทอง และเพลงดังอมตะอีกมากมาย มาร้องให้แฟนๆ ได้ชื่นหัวใจ ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ทางทีมผู้จัดคอนเสิร์ต ได้นำเพลง “ห่วงหา” มาร้อยเรียงเพิ่มเติมเนื้อร้อง โดย คุณประภาส ชลศรานนท์ ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ ให้ผู้ชมได้อิ่มเอมใจ ขับร้องโดย นัน อนันต์ อาศัยไพรพนา แชมป์ไมค์ทองคำ ๖ หนุ่มน้อยเสียงอ้อนที่มาร่วมถ่ายทอดบทเพลงบทคอนเสิร์ตนี้เป็นครั้งแรก เรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแม่ๆ ได้ดังสนั่นโรงละคร และช่วงที่แฟนๆ ทุกท่านรอคอย กับ “จำอวดหน้าม่าน” ฮาน้ำหมากกระจายไปกับ ๓ น้า น้าโย่ง, น้านงค์ และน้าพวง ฉ่อยถ่ายทอดเรื่องราวและเกร็ดความรู้ในแต่ละยุคให้เป็นเรื่องใกล้ตัว แข่งกันปล่อยมุกตลก เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
และมาปิดท้ายค่ำคืนแห่งความสุขในวันแม่ปีนี้ ด้วยบทเพลง “กรุงเทพมหานคร” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของกรุงเทพเมืองฟ้ามหาอมรดุจเทพสร้าง เมืองหลวงที่รุ่งเรือง ทั้งถนนหนทาง วัดวาอาราม และยังธำรงความเป็นปึกแผ่นจนถึงปัจจุบัน ผสมผสานกับการบรรเลงดนตรีที่มีทั้ง วงปี่พาทย์ ระนาดเอก วงออร์เคสตรา ถือเป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องดนตรีฝรั่งและดนตรีไทยได้อย่างลงตัว ยิ่งทำให้เกิดความอัศจรรย์ใจและความภาคภูมิใจในรากเหง้าความเป็นไทย เรียกว่าเป็นการรูดม่านแดงปิดฉากคอนเสิร์ต ที่เต็มไปด้วยความสุขความสนุก ส่งผู้ชมทุกท่านกลับบ้านด้วยรอยยิ้มและความอิ่มเอมใจ