Louis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง) พาคุณออกเดินทางสู่ ‘LV The Place Bangkok’ ณ ศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์ จุดหมายแห่งใหม่ล่าสุดที่รวมคอนเซ็ปต์ครบทุกประสบการณ์ภายในพื้นที่เดียวกัน ตั้งแต่งานนิทรรศการ คาเฟ่ รีเทลสโตร์ และร้านอาหารโดยเชฟชื่อดัง Gaggan Anand พร้อมทั้งดีไซน์สถาปัตยกรรมอันเป็นแรงบันดาลใจ และการตกแต่งอย่างสวยงาม ตลอดจนเมนูต่างๆ ที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะ โดยคอนเซ็ปต์สโตร์ใหม่แห่งนี้จะต้อนรับผู้มาเยือนเพื่อพาไปค้นพบจินตนาการอัน ไร้ขีดจำกัด และความคิดสร้างสรรค์ในโลกของหลุยส์ วิตตอง
LV The Place ครอบคลุมพื้นที่สองชั้นภายในอาคารบนทำเลอันล้ำค่าใจกลางกรุงเทพฯ และยังได้สร้างสรรค์ความงดงามผ่านจินตนาการของแสงออร่าอันเปล่งประกายจากมุมตึก โดยด้านนอกตกแต่งด้วยประติมากรรมรูปทรงเพชรขนาดใหญ่ที่ส่องแสงยามค่ำคืน ส่วนด้านในได้รวบรวมหลากหลายรูปแบบประสบการณ์ ทั้งรีเทล อาหาร และเรื่องราวของวัฒนธรรม
ชั้นล่างจัดแสดงเรื่องราวการเดินทางแห่งวิสัยทัศน์ ภายใต้ชื่อ Visionary Journeys นิทรรศการใหม่ที่จะพาคุณไปสัมผัสมรดกล้ำค่าอันเป็นที่มาของเมซง ซึ่งไม่เคยแสดงที่ใดมาก่อน นำเสนอห้องต่างๆ ที่ถูกแบ่งเป็นธีมชัดเจนในรูปแบบแตกต่างกัน โดยผสมผสานเรื่องราวบริบทใหม่ ทั้งประวัติศาสตร์ และชิ้นงานร่วมสมัย เพื่อเชิญชวนผู้มาเยือนให้ดื่มด่ำไปกับหัวใจหลักในความเชี่ยวชาญงานฝีมือ นวัตกรรม การเดินทาง และความคิดสร้างสรรค์
สำหรับ Le Café Louis Vuitton ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่าง ตกแต่งในบรรยากาศอันรื่นรมย์ ผสมผสานดีไซน์องค์ประกอบของพืชพรรณธรรมชาติสไตล์ Tropical และดีเทลทันสมัยของเมซง ตั้งแต่พื้นปาร์เก้ไม้ที่ปูเป็นลวดลายโมโนแกรม ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ในดีไซน์ที่ตีความจาก Objets Nomades และเป็นคาเฟ่แห่งแรกที่หลุยส์ วิตตอง ได้พัฒนาสูตรขนมเอง พร้อมทั้งตกแต่งรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตอง ด้วยขนมที่รังสรรค์ขึ้นพิเศษอย่าง เช่น Star Blossom Cake เค้กชอคโกแลตรสละมุนผสมผสานคาราเมลเข้มข้น Monogram Cake เค้กพิสตาชิโอที่ได้ความหอมอ่อนๆ ของกลิ่นส้ม และ Mango Sticky Rice Fizz เครื่องดื่มเย็นสดชื่นที่ได้แรงบันดาลใจจากข้าวเหนียวมะม่วงของไทย โดยใช้น้ำเชื่อมสกัดรสชาติจากข้าวเหนียวมะม่วงมาผสมกับน้ำ โทนิคโซดา
รีเทลสโตร์ภายใน LV The Place Bangkok ครอบคลุมพื้นที่ชั้นบนสุด เพื่อมอบประสบการณ์ชอปปิ้งอันพิเศษและร่วมสมัย นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ต้องการสรรหาความเอ็กซ์คลูซีฟ ร้านแห่งนี้ยังนำเสนอกระเป๋ารุ่น Alma Nano Rainbow ใน 5 โทนสี เช่นเดียวกับเสื้อทีเชิ้ตในคอลเลกชั่นสุภาพสตรี Cruise 2024 ใน 4 โทนสี และรองเท้าสนีคเกอร์สุภาพบุรุษ LV Trainer Upcycling ที่มีดีไซน์เอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยจะวางจำหน่ายเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่นี่เพียงแห่งเดียวในโลก ส่วนการรังสรรค์รูปแบบเฉพาะตัวบนผลิตภัณฑ์ มีบริการประทับลวดลาย นอกจากนี้ยังมี มาสคอตของเมซงโดยตั้งชื่อพิเศษว่า “Nong Vivienne” (เพื่อสื่อความหมายของคำว่าน้องในภาษาไทย ที่ใช้เรียกผู้ที่อายุน้อยกว่า แฝงความน่ารักอ่อนน้อมในแบบคนไทย) ที่ดีไซน์ขึ้นใหม่เพื่อต้อนรับการเปิดตัวร้านแห่งนี้
Gaggan at Louis Vuitton ตั้งอยู่บนชั้นสองของคอนเซ็ปต์สโตร์แห่งนี้ นับเป็นร้านอาหารร้านแรกของเมซงในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยมีเชฟผู้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง Gaggan Anand มาสร้างสรรค์ประสบการณ์ในการรับประทานอาหาร ทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น พร้อมทั้งนำเสนอเมนูประจำ ซีซั่นที่รังสรรค์พิเศษให้กับหลุยส์ วิตตอง ภายใต้คอนเซ็ปต์ 5 S ได้แก่ Sweet, Sour, Salty, Spicy และ Surprise ตั้งแต่เมนูล็อบสเตอร์กับซอสที่ได้แรงบันดาลใจจากรสชาติแบบไทย ไปจนถึงสูตรเมนูเห็ดในแผ่นแป้งที่มีแรงบันดาลใจมาจากแพทเทิร์น Damier โดยส่วนผสมแต่ละชนิดจะเป็นดาวเด่นที่นำเสนอผ่านเมนูในแต่ละจาน
ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก House Ambassador ระดับโลกของแบรนด์ Louis Vuitton อย่าง แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล และ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ พร้อมด้วยศิลปินและนักแสดงคนดังมากมาย อาทิ แอน ทองประสม, ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, มาริโอ้ เมาเร่อ, ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร, เก้า-สุภัสสรา ธนชาต, ริว-วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล, ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์, มาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์, คริส หอวัง, พลอย หอวัง, แพต-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช, บูล-พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ, เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต, เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน, เจ้าขุน-จักรภัทร วรรธนะสิน, โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์, โต้ง-พิทวัส พฤกษกิจ, มารีน่า บาเล็นซิเอก้า, เฟย์-พรปวีณ์ นีระสิงห์, จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน, พรีม-ชนิกานต์ ตังกบดี และปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้จากดีเจ พร้อมโชว์ไฮไลต์จาก MILLI หรือ มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล และแร็ปเปอร์ระดับตำนานของเมืองไทย ขัน Thaitanuim หรือ ขันเงิน เนื้อนวล
การสร้างสรรค์ผลงานจากศิลปินทั้งภายในประเทศและระดับนานาชาติเพื่อจัดแสดงภายในพื้นที่ร้านทั้งหมด ถือเป็นการรวบรวมคอนเซ็ปต์จากสีสันความมีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ ผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อให้ LV The Place Bangkok เป็นพื้นที่ไลฟ์สไตล์ระดับโลกซึ่งหลุยส์ วิตตองมีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ โดยนำเรื่องราวของวัฒนธรรมในมุมกว้างมารวมอยู่ภายในร้านนี้เพียงแห่งเดียว จึงกล่าวได้ว่าคอนเซ็ปต์สโตร์ที่ศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์แห่งนี้ได้สร้างแม่พิมพ์บทใหม่ให้กับร้านหลุยส์ วิตตองแห่งต่อๆ ไปในอนาคต