“วันหนึ่งมึงจะตายอย่างหมาข้างถนน”
“ชีวิตจริงไม่เหมือนบนสังเวียน ไม่มีแพ้ มีแต่ตาย”
บริษัท แอมแมกซ์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ แอม ณัฎฐา ชาญเลขา จับมือร่วมกับ บริษัท เกสโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เตรียมออกอาวุธทางร่างกายแบบดุเดือดครบรส ส่งภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์ ที่จะมาเขย่าวงการมวยไทย “ลุมพินี” ให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก กับศิลปะการต่อสู้ “มวยไทย” มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทย พร้อมร่วมผลักดันศิลปะประจำชาติเป็น Soft Power ให้กระจายโด่งดัง มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ภายในพิธีบวงสรวง มีทั้งแขกผู้มีเกียรติ พันธมิตรธุรกิจภาพยนตร์ และสื่อมวลชนหลายๆ สำนัก เข้าร่วมพิธีบวงสรวงเปิดตัวภาพยนตร์ “ลุมพินี” ผลงานการกำกับโดย “อานุภาพ อนุวงษ์สังข์” ณ บริเวณลาน Skywalk ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ (MBK Center) โดยมีเหล่านักแสดงนำที่เข้าร่วมงาน ได้แก่ 2 พี่น้องพระเอกลิเกขวัญใจแม่ยกสุดฮอต “นีโน่ กฤษฎิ์สพล สุทธิหิรัญดำรงค์” และ “แน็คกี้ ธเนศพิพัฒ สุทธิหิรัญดำรงค์” ร่วมด้วยเหล่านักแสดงชื่อดัง อาทิ “ต้า อธิวัตน์ แสงเทียน” พระเอกซีรีส์วายสุดฮอต กับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญที่สุด และนางเอกดาวรุ่งกับผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก “อาลีน่า โด๊หลิ่ง” พร้อมด้วย” โดโด้ ยุทธพิชัย ชาญเลขา, โกวิท วัฒนกุล, เอกชัย ศรีวิชัย, ทองขาว ภัทรโชคชัย, สนธยา ชิตมณี (สน เดอะสตาร์), ธนาวุฒิ เกสโร, ธัชพล เกสโร, ศรุต ขันวิไล (ไซม่อน กุ๊ก), ข้าวฟ่าง ญาสุมินทร์ สงวนชิต, โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา” และ “ติรุตม์ ญาณติร”
งานนี้ 2 พี่น้องนักแสดงนำ “นีโน่ กฤษฎิ์สพล” และ “แน็คกี้ ธเนศพิพัฒ” ขอสลัดมาดพระเอกลิเก มาโชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทย การไหว้ครู และโชว์การเตะต่อย ในช่วงพิธีบวงสรวง เรียกว่าเป็นหนึ่งในพิธีกรรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของผู้ที่ฝึกฝนมวยไทย เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวนักมวยก่อนการแข่งขันขึ้นชกมวย
ภาพยนตร์ไทย “ลุมพินี” เป็นเรื่องราวของ “ลุม (ลุมพีนี)” นักมวยฝีมือดีในค่ายมวยชัยยิมของเฮียเลา ลุม รูปร่างหน้าตาผิวพรรณดี จิตใจดี มีน้ำใจ เขากําลังเป็นที่จับตามองของเซียนมวยหลายคน ชีวิตของ ลุม เคยเป็นเด็กร่อนเร่ ไม่มีชื่อ อาศัยอยู่ในสวนลุมพีนี มาฝึกชกมวยทุกวัน จนเฮียเลา มาเห็นเลยเก็บมาชุบเลี้ยง และสอนมวยให้จนเก่ง และตั้งชื่อให้ว่า “ลุมพีนี” แต่ชีวิตลุมกลับต้องมาเจอมรสุมอย่างหนัก และหมดสิทธิชกมวยไปตลอดชีวิต ลุมถูกไล่ออกจากค่ายด้วยคําพูดที่เจ็บปวดของเฮียเลาว่า “วันหนึ่งมึงจะตายอย่างหมาข้างถนน” จากนั้นชีวิตลุมก็เดินทางเข้าสู่เส้นทางด้านมืด พร้อมกับคำสอนที่ว่า “ชีวิตจริงไม่เหมือนบนสังเวียน ไม่มีแพ้มีแต่ตาย” และลุมก็เริ่มเปลี่ยนชีวิตตัวเองไปเป็นคนละคนทันที
ด้านแอม ณัฎฐา ชาญเลขา ผู้บริหาร แอมแมกซ์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เผยถึงแรงบันดาลใจการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ และหวังผลักดันให้ภาพยนตร์ “ลุมพินี” เป็นอีกหนึ่งพลังซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ให้กับประเทศในเรื่องของศิลปะการต่อสู้มวยไทย
อะไรคือแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์ไทยเรื่อง ลุมพินี
ฟังโปรเจกต์นี้แล้วน่าสนุก ท้าทาย และทีมงานทุกคนคือมืออาชีพมาก ผ่านงานหนังระดับ Hollywood หรือหนังต่างประเทศกันมาหมดแล้ว แล้วตัวแอมเองก็ได้พันธมิตรที่ดีเยอะมาก ที่สำคัญเลยคือ พี่ตุ๋ย วิสุนัย จำปาศิริ โปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้ และ พี่ดำ จาก เกสโร (ครูดำ ธนาวุฒิ เกสโร) พอเราได้มานั่งคุยกัน แล้วมันก็คลิก เหมือนได้ไอเดียมาเติมเต็มกันและกัน เพราะตัวพี่ดำเองก็มีชื่อเสียง และมีความชำนาญในการทำหนังบู๊ระดับ Hollywood มาแล้ว ส่วนพี่ตุ๋ยก็เป็นรุ่นพี่ที่สนิทมากๆ ก็เลยกล้าที่จะมาจับโปรเจกต์ใหญ่ด้วยกัน ที่สำคัญแอมมองว่า ด้วยเพราะหนังเรื่องนี้มีลูกค้าต่างชาติรอซื้ออยู่แล้ว ในมุมนักธุรกิจมันเลยสนุก และใส่ได้สุด เพราะไม่ต้องเดาทางหาลูกค้า แอมแค่ทำหน้าที่ถ่ายทอดมันออกมาให้ดีที่สุด และอีกหนึ่งแรงบันดาลใจคือ เราอยากทำหนังเรื่องนี้ให้เป็นพลัง ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เราเห็นหนัง หรือ ซีรีส์ของเกาหลีเขาทำได้ แอมเลยรู้สึกว่าเมืองไทยมีอะไรดีๆ เยอะมาก เราก็ต้องทำได้สิ ก่อนหน้านี้เราแค่มองคนอื่นทำ แต่ตอนนี้โอกาสมาถึงมือ ให้แอมทำแล้ว แอมก็จะได้เรียนรู้ และทำให้เต็มที่ในแบบที่เราอยากทำ และทำเพื่อประเทศชาติในแบบของเรา ถึงแม้จะเป็นส่วนเล็กๆ แต่แอมก็เต็มที่ในทุกๆ อย่างที่ทำเสมอ สุดท้ายเหมือนเป็นพรหมลิขิต ที่เราจะได้ทำหนังเรื่องนี้แบบติดจรวดเลยค่ะ
ทำไมถึงเลือกที่จะหยิบยกศิลปะมวยไทยมาทำภาพยนตร์เรื่องนี้
มวยไทย คือความเป็นไทยที่แท้จริง แล้วตัวแอมก็ชอบกีฬามวย แอมดูมวยกับคุณพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อเคยเป็นนักมวยด้วย ฟังเรื่องราวของมวยมาตลอด แล้วชาวต่างชาติเขาก็ตื่นตาตื่นใจกับศิลปะการต่อสู้มวยไทยมากนะคะ ถ้ามองว่าเราจะถ่ายทอดออกมาเป็นหนังมวยไทย โชว์การต่อสู้มวยไทย แบบถูกวิธีจากครูมวยจริงๆ มันไม่ใช่แค่หนังบู๊ที่มาสู้กันเฉยๆ แต่จะเอาแม่ไม้มวยไทยมาประชันกัน โดยนักแสดงคิวบู๊ระดับ Hollywood มันคงเท่มากๆ ตอนที่ได้ดูเค้าดีไซน์ฉากบู๊ คือสนุกและมันส์มากค่ะ เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้ชาวต่างชาติได้ดูกันผ่านเลนส์ และมุมมองของเรา
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ให้กับประเทศไทยอย่างไร
เราคาดหวังให้ชาวต่างชาติที่ได้ชมภาพยนตร์ลุมพินี มาเช็คอินตามสถานที่ต่างๆ ที่เราได้นำเสนอในหนัง และทำให้กระแสมวยไทยเป็นที่นิยมมากกว่าเดิม ผลักดันส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ในฐานะที่ตัวแอมก็เคยเป็นนักแสดง และปัจจุบันก็ถนัดในเรื่องของการเป็นนักประชาสัมพันธ์องค์กร และการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการประชาสัมพันธ์ เราก็คาดหวังว่าจะได้พาหนังไทยไปทั่วโลก ทำการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ผ่านวงการบันเทิงจากภาพยนตร์ลุมพินี เรื่องนี้ค่ะ
มีพันธมิตรทางธุรกิจภาพยนต์ที่ต่างประเทศ ให้ความสนใจกับภาพยนตร์ลุมพินีอย่างไรบ้าง
ตอนนี้เรามีพันธมิตร หรือ เอเจนซี่จากอเมริกา บินมาเพื่อเซ็นสัญญาซื้อขายหนังเรื่องนี้ และก็มีทีมบินมาจากประเทศจีนเพื่อมาเจรจาในการซื้อขายเช่นกัน
ภาพยนตร์ลุมพินี จะให้อะไรกับคนดู และคาดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างไรบ้าง
เนื้อหาของลุมพินีที่คนดูจะได้เห็น คือการให้โอกาส ความกตัญญูรู้คุณคน และความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แอม คาดหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ จะได้รับการสนับสนุนจากคนไทย จากคอหนังไทย และคนที่ชอบหนังแอ็คชั่นทั่วโลก ลุมพินี ถือเป็นการทำหนังเรื่องแรกของแอม ถ้าได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี ก็จะมีผลงานต่อๆ ไปอีกแน่นอนค่ะ แอมขอฝากภาพยนตร์เรื่อง ลุมพินี ด้วยนะคะ
ภาพยนตร์ไทย “ลุมพินี” พร้อมให้แฟนๆ ชาวไทยได้พิสูจน์ และเห็นอีกหนึ่งมุมมองของ “มวยไทย” ศิลปะการต่อสู้ที่อยู่บนสังเวียนคาดเชือก และบนสังเวียนของชีวิตจริง รับชมพร้อมกันทั่วประเทศ และทุกโรงภาพยนตร์ในปี 2567