7 กุมภาพันธ์ 2565, กรุงเทพมหานคร – สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) (Electronic Transactions Development Agency) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จับมือพาร์ทเนอร์ ภาครัฐ เอกชนและ Regulator จัดใหญ่การแข่งขัน “MEiD Hackathon : Digital ID Solution for All บริการไทย ไร้รอยต่อ” เฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมดิจิทัลไอดี เชื่อมทุกบริการไทย ทีม UpPass เจ้าของนวัตกรรม No-Code Verification Onboarding platform นวัตกรรมที่เชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลภาครัฐ ยกระดับการพิจารณาสินเชื่อออนไลน์ ครองแชมป์ รับเงินรางวัล 250,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศและโอกาสทดสอบนวัตกรรมกับ ETDA Sandbox
นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า ปัจจุบันโลกเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แทบทุกกิจกรรมถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและการทำธุรกรรมออนไลน์ โดย ETDA ในฐานะหน่วยงานที่มุ่งส่งเสริม สนับสนุนให้คนไทยทำธุรกรรมออนไลน์ที่มั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ จึงได้ให้ความสำคัญและเร่งดำเนินงานเพื่อหาแนวทางที่จะทำให้ทุกกิจกรรมทางออนไลน์มีประสิทธิภาพและเกิดความเชื่อมั่นในการใช้งานให้มากที่สุด พร้อมเดินหน้าส่งเสริมให้ประเทศเกิดการใช้งานการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ ดิจิทัลไอดี ให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และ Regulator จัดการแข่งขัน MEiD Hackathon : Digital ID Solution for All “บริการไทย ไร้รอยต่อ” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่อยู่ภายใต้แคมเปญ MEiD (มีไอดี) “บริการไทย…ไร้รอยต่อ” เพื่อเป็นเวทีและพื้นที่สำหรับคนไทยทุกกลุ่ม ทั้งนักศึกษา สตาร์ทอัพ และ Service Provider ฯลฯ ได้มีโอกาสนำเสนอไอเดีย รวมถึงนวัตกรรม โซลูชันดิจิทัลไอดี สู่การเป็นหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและต่อยอดให้ประเทศเกิดการใช้งานการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (ดิจิทัลไอดี) ได้สำเร็จเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับการแข่งขัน MEiD Hackathon: Digital ID Solution for All “บริการไทย ไร้รอยต่อ” ตั้งแต่เปิดรับสมัครจนถึงปัจจุบัน เราได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนที่ดีจากพาร์ทเนอร์มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ กรมการปกครอง, สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(สำนักงาน กสทช.), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) รวมถึงหน่วยงานเอกชนและ Service Provider อาทิ AIS The StartUp, บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด (NDID), บริษัท ไฟร์ วัน วัน จำกัด และ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ที่มาร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมนี้ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น โดยได้รับการตอบรับจากเจ้าของนวัตกรรมดิจิทัลเข้าสมัครร่วมกิจกรรมจำนวนมาก จนได้ 20 ทีมที่ผ่านมาเข้าสู่รอบแรก ซึ่งทุกทีมได้เข้าร่วมกิจกรรม Online Workshop กับผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายมิติทั้งเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่มาร่วมให้ความรู้ พร้อมแนะนำและให้คำปรึกษา ก่อนเข้าสู่กิจกรรมการแข่งขันรอบ Semi Final Pitching นำเสนอผลงานกันอย่างเข้มข้นต่อคณะกรรมการในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งหลังเข้าร่วมกิจกรรมเราได้มีการสำรวจความคิดเห็นของทั้ง 20 ทีม พบว่า ผู้เข้าแข่งขันมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมและ Mentors ที่มาให้คำปรึกษาเป็นอย่างมากและตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้เป็นอย่างดี โดยประเด็นที่เจ้าของนวัตกรรมส่วนใหญ่อยากให้รัฐเข้าไปส่งเสริม คือ การสนับสนุนไอเดีย นวัตกรรมของพวกเขาให้เกิดการใช้งานจริง มีสนามทดสอบนวัตกรรรม หรือ Sandbox ที่เข้าถึงได้ง่าย รวมถึงการสนับสนุนทั้งด้านความรู้ คำปรึกษาและเงินทุน เป็นต้น และหลังจากที่ได้มีการพิจารณาคัดเลือกทีมตามเกณฑ์การตัดสินที่กำหนดไว้ในหัวข้อต่าง ๆ ก็ทำให้ได้ 10 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Apptify, ทีม Brainergy, ทีม Future Presence, ทีม InDistinct, ทีม MANAGov, ทีม Seekforce, ทีม Stepsole Health AI, ทีม UpPass, ทีม Veracity และ ทีม ยืนยัน Platform พร้อมกับนวัตกรรมโซลูชันหลากหลายประเภท ที่จะสามารถนำมาประยุกต์และพัฒนาต่อไปเพื่อใช้ในการดำเนินงานธุรกิจด้านต่าง ๆ ได้จริง
โดยการแข่งขันที่จัดขึ้นในวันนี้ เป็นโค้งสุดท้ายที่ทุกทีมได้ร่วมแข่งขัน เพื่อนำเสนอผลงานที่ผ่านการตกผลึกและกระบวนการคิดมาแล้วอย่างเข้มข้นกับเหล่าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของประเทศไทย ซึ่งตลอดการแข่งขันนั้นทั้ง 10 ทีม ต่างก็มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการคิดค้น พัฒนานวัตกรรมและโซลูชันดิจิทัลไอดี ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพด้านดิจิทัลของ Service Provider ไทย และจากการพิจารณาตัดสินการแข่งขันของคณะกรรมการ พบว่า ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 คว้าสุดยอดนวัตกรรมดิจิทัลไอดีคือ คือ
ทีม UpPass เจ้าของนวัตกรรม No-Code Verification Onboarding platform นวัตกรรมที่เชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลภาครัฐ ยกระดับการพิจารณาสินเชื่อออนไลน์ ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 250,000 บาท โล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร รองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ทีม Seekforce เจ้าของแพลตฟอร์ม myWorkforce.io ตัวกลางจับคู่งาน ที่ทำให้การคัดเลือกคนเข้ามาทำงานได้อย่างปลอดภัย ด้วยการยืนยันตัวตนที่ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมได้ และอันดับ 3 คือ ทีม Brainergy เจ้าของนวัตกรรม Empower Business with Digitization ที่จะทำให้ทุกภาคส่วนลงนามใน e-Document หรือเอกสารสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ ได้อย่างน่าเชื่อถือ ด้วยการยืนยันตัวตนที่เป็นไปตามมาตรฐานของ ETDA ซึ่งได้รับรางวัลโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร ทั้งนี้ ทั้ง 3 ทีมยังได้รับโอกาสในการเข้าร่วมทดสอบนวัตกรรมกับ ETDA Sandbox เพื่อเตรียมพร้อมนวัตกรรม สร้างความเชื่อมั่นก่อนให้บริการจริง
“ETDA ขอแสดงความยินดีกับทุกทีมที่ได้รับรางวัลและขอขอบคุณผู้สมัครเข้าแข่งขันทุก ๆ ทีมที่เข้าร่วมกิจกรรม และสะท้อนให้สังคมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของนวัตกรรมดิจิทัลไอดีใหม่ ๆ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า MEiD Hackathon : Digital ID Solution for All “บริการไทย ไร้รอยต่อ” จะเป็นฟันเฟืองในการผลักดันให้การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลเกิดการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เชื่อมทุกบริการไทยให้เป็นหนึ่งเดียว อันนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบต่อไป” นายชัยชนะ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ สำหรับท่านใดที่สนใจและประสงค์เข้าร่วมแคมเปญกิจกรรมของ MEiD (มีไอดี) ในครั้งต่อไป สามารถดูรายละเอียดได้ที่เพจเฟซบุ๊ก MEiD (มีไอดี) : www.facebook.com/meid.thailand และ ETDA Thailand : www.facebook.com/ETDA.Thailand หรือติดต่อสื่อสารเรื่องดิจิทัลไอดี สามารถสอบถามเพิ่มเติมผ่านทาง Line OA : @meid_thailand หรือคลิก https://lin.ee/OgxNTzX