วันศุกร์ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๒ ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันเยาวชนแห่งชาติประจำปี ๒๕๖๒ พร้อมมอบโล่เกียรติคุณและ เกียรติบัตรแก่เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ประจำปี ๒๕๖๒ โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) มอบหนังสือวันเยาวชนแห่งชาติ เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน พ.ศ. ๒๕๖๒ แด่ผู้แทนพระองค์ พร้อมด้วยนายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายอนุกูล ปีดแก้ว รักษาราชการแทน อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เบิกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ผู้แทนองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และกลุ่มเด็ก และเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ เข้ารับโล่เกียรติคุณและเกียรติบัตร จำนวน ๑๑ สาขา รวมทั้งสิ้น ๑๒๑ ราย
นายอนุกูล ปีดแก้ว รักษาราชการแทน อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ (UNITED NATIONS) ได้ประกาศให้ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ เป็นปีเยาวชนสากลและขอให้ประเทศสมาชิกร่วมเฉลิมฉลองปีเยาวชนสากล ภายใต้คำขวัญ “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ” (Participation, Development and Peace) เพื่อที่จะมุ่งเน้นให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเองที่จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคตและสามารถช่วยสร้างเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อีกทั้ง เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์สองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ ซึ่งทั้งสองพระองค์ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในขณะที่ยังทรงพระเยาว์ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๒๘ กำหนดให้วันที่ ๒๐ กันยายนของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ ทั้งนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมให้เยาวชนได้มีพื้นที่ในการทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เจริญเติบโตสมวัยทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา มีความเข้าใจในการดำรงชีวิตตามกฎระเบียบของสังคม โดยได้จัดงานวันเยาวชนแห่งชาติ มาต่อเนื่อง เป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ให้เยาวชนมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตนเองมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ อีกทั้งเป็นการกระตุ้น ให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของเยาวชน และมีส่วนร่วมส่งเสริมสนับสนุนการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเยาวชน
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเชิดชูและสนับสนุนสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ทำคุณงามความดี มีความสามารถเป็นแบบอย่าง มีสภาวะเป็นผู้นำที่เข้มแข็งมากขึ้น สามารถช่วยเหลือสังคมได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งสิ้น ๑๒๑ ราย จำนวน ๑๑ สาขา ได้แก่ ๑. สาขากฎหมายและการปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน ๒. สาขาการศึกษาและวิชาการ ๓. สาขากีฬาและนันทนาการ ๔. สาขาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี ๕. สาขาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๖. สาขาพัฒนาเยาวชน บำเพ็ญประโยชน์ และส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของเยาวชน ๗. สาขาศิลปวัฒนธรรม ๘. สาขาศีลธรรม จริยธรรม และคุณธรรม ๙. สาขาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ๑๐. สาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม ๑๑. สาขาอาชีพ รวมทั้งสิ้น ๑๒๑ ราย แบ่งเป็นเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ๘๐ ราย กลุ่มเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ๑๙ กลุ่ม บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ๑๕ ราย องค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ๗ องค์กร โดยผู้ที่ได้รับคัดเลือกในปีนี้ อาทิ ประเภทบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน สาขาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ นายอเล็กซานเดอร์ ไซม่อน เรนเดลล์ สาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม อาทิ นางสาวหนึ่งธิดา โสภณ (หนูนา), กรุณา บัวคำศรี (นา), กำภู ภูริภูวดล
นายอนุกูล กล่าวทิ้งท้ายว่า วันที่ ๒๐ กันยายนเป็นวันเยาวชนแห่งชาติ อยากฝากให้เยาวชนทั่วประเทศได้แสดงพลังของตนเอง เพื่อให้ชุมชนและสังคมเห็นความสำคัญ ประกอบกับวัยเยาวชนเป็นวัยที่มีพลัง กล้าคิด กล้าแสดงออก พร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพและแสดงออกใน เชิงสร้างสรรค์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมที่จะส่งเสริม และสนับสนุนให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ประเทศชาติ ตามคำขวัญวันเยาวชนที่ว่า “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ”