สำนักงานนวัตกรรรม (องค์การมหาชน) หรือ NIA ประกาศสุดยอดสตาร์ทอัพไทยแลนด์ลีคแห่งปี 2563 ระดับมหาวิทยาลัย หลังเปิดมิติใหม่แห่งการ Pitch ธุรกิจสตาร์ทอัพ ให้นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศกว่า 400 ทีม ร่วมประชันไอเดียในการประกวดแข่งขัน Pitching STARTUP THAILAND League 2020 ระดับประเทศ ผ่านระบบ Zoom รับกระแสโควิค
นายปริวรรต วงษ์สำราญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA กล่าวในฐานะประธานเปิดงานว่า โครงการ STARTUP Thailand เริ่มต้นในปี 2559 เกิดขึ้นตามที่รัฐบาลมีนโยบายปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ Startup ให้เป็นนักรบใหม่ทางเศรษฐกิจ เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนประเทศ พร้อมมอบให้กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นหรือสตาร์ทอัพ เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคการศึกษา ในการสร้างความตระหนักและการรับรู้ จิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการ สู่กระบวนการบ่มเพาะและการพัฒนาผู้ประกอบการ ตลอดจนการเร่งรัดธุรกิจสู่ตลาดสากล
ที่ผ่านมา กระทรวง อว. โดย NIA ได้พัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้น ตั้งแต่ระดับสถาบันการศึกษาทั้งในมหาวิทยาลัยและสถาบันอาชีวศึกษา โดยมีมหาวิทยาลัย 39 แห่งทั้งภาครัฐ เอกชนและสถาบันอาชีวศึกษากว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศไทย ได้สร้างแนวคิด แผนงานธุรกิจ และนวัตกรรมใหม่ๆ ของวิสาหกิจเริ่มต้นเป็นจำนวนกว่า 1,500 ราย และในปีนี้ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เราได้เปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน Pitching เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ นับเป็นมิติใหม่แห่งการแข่งขัน Pitching ผ่านระบบ Zoom พร้อมกันมากถึง 390 ทีม ในระยะเวลา 2 วัน คือวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2563 และมี 10 ทีม ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของ STARTUP THAILAND League 2020 ระดับประเทศ โดยผู้ชนะเลิศ อันดับ 1-3 จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท, 30,000 บาท และ 20,000 บาทตามลำดับ
นายปริวรรต กล่าวทิ้งท้ายว่าสำหรับน้องๆ ทั้ง 390 ทีม ที่ได้นำเสนอแผนงานธุรกิจไปแล้ว จะได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการ รวม 200 ทีม ให้ได้รับทุนสนับสนุน ทีมละ 25,000 บาท เพื่อจัดทำผลงานต้นแบบนำเสนอในงานแสดงผลงาน (Showcases) ที่ NIA จะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งนับเป็นอีกเวทีสำคัญในการจัดแสดงแผนงานธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของจริง เพื่อนำเสนอต่อสาธารณชนต่อไป และถือเป็นโอกาสสำคัญของการก้าวไปสู่อนาคตข้างหน้าของทุกคน