นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจที่สำคัญของ สสว. คือ การสรรหาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีความสามารถใน การบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานที่ดี มีความโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายอื่น ๆ รวมถึงการต่อยอดและขยายโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้รับรางวัลสามารถสร้างรายได้และเพิ่มยอดขายของธุรกิจเอสเอ็มอีได้
ในปีนี้ได้มีการปรับเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกรางวัลให้เพิ่มเติมแนวคิดของ BCG ในหลักเกณฑ์ของการประเมินรางวัลฯ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนแนวคิดของภาครัฐที่ต้องการเร่งรัดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ BCG Model มีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติอย่างน้อย 5 เป้าหมาย ได้แก่ การผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ความหลากหลาย ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การลดความเหลื่อมล้ำ อีกทั้งยังสอดรับกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย
สำหรับการประกวดปีนี้ มีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมการประกวดรางวัล จำนวน 1,002 ราย โดยมีผู้ประกอบการผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์การตัดสินที่กำหนดไว้ได้รับรางวัล จำนวน 40 ราย ได้แก่ รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ จำนวน 13 ราย รางวัล SME ดีเด่น จำนวน 27 ราย และในปีนี้มี การมอบรางวัลพิเศษ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ อีก 7 รางวัล ได้แก่ รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ ยอดเยี่ยม ซึ่งมอบให้สำหรับผู้ประกอบการที่มีผลคะแนนรวมสูงสุดในปีนี้ รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ 3 หรือ 5 ปีซ้อน รางวัล SME โดดเด่นด้านนวัตกรรม รางวัล SME โดดเด่นด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน และรางวัล SME โดดเด่นด้านการปรับกลยุทธ์พิชิต Covid-19
รายงานข่าวเผยว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลปีนี้ สามารถสร้างมูลค่ายอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 1,101 ล้านบาท