VIPA แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงจาก Thai PBS เปิดประสบการณ์เวที Exclusive Talk ครั้งแรกในรูปแบบกิจกรรม VIPA ON STAGE เพื่อระดมความคิดจากกูรูตัวจริงในแวดวงสารคดีไทย ในหัวข้อ “สารคดีไทย เล่นใหญ่ได้นะวิ (VIPA)” พร้อมเปิดไอเดียและแลกเปลี่ยนมุมมองใหม่มุ่งขับเคลื่อนสารคดีไทยก้าวสู่เวทีโลก ผลักดันให้ VIPA ได้เป็นพื้นที่สำหรับการสร้างโอกาสให้กับผู้ผลิตสารคดีไทยได้มีที่ยืนในตลาดโลก รวมทั้งเชื่อมโยงผู้รับชมให้มีโอกาสเข้าถึงคอนเทนต์คุณภาพอย่างหลากหลายและเท่าเทียม
คุณอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ส.ส.ท. ในฐานะประธานการจัดงาน VIPA ON STAGE ซึ่งเป็นกิจกรรม Exclusive Talk ครั้งแรกของ VIPA แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงจาก Thai PBS ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนมุมมองการสร้างสรรค์คอนเทนต์สารคดีคุณภาพ ในหัวข้อ “สารคดีไทย เล่นใหญ่ได้นะวิ (VIPA)” ได้กล่าวเปิดงานและสะท้อนภาพรวมของแนวโน้มตลาดวิดีโอสตรีมมิงตอนหนึ่งว่า สตรีมมิงแพลตฟอร์มในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง จากการสำรวจของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA พบว่าคนไทย 1 ใน 3 หรือกว่า 26 ล้านคนใช้บริการรับชมคอนเทนต์ผ่านสตรีมมิงแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ดี โอกาสการแข่งขันของสตรีมมิงแพลตฟอร์มสัญชาติไทยยังมีช่องว่างสำหรับการเติบโตในกลุ่มเนื้อหาในประเทศ (Local Contents) และกลุ่มสาระบันเทิงที่ให้ความรู้แบบเข้าใจง่ายนำเสนอที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ ยิ่งเป็นโอกาสในการเติบโตเพิ่มขึ้นอีก
“VIPA แพลตฟอร์มสัญชาติไทย ยังคงให้ความสำคัญกับปัจจัยความสงสัยหรือความใคร่รู้ของผู้ชมเพื่อนำเสนอคอนเทนต์สาระความรู้ตรงความต้องการ และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพราะเรามีความมุ่งหวังจะสร้างโอกาสสำคัญเพื่อกำหนดบทบาทของ VIPA ให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนเข้าถึง และมีความหลากหลายของเนื้อหา เป็นสตรีมมิงแพลตฟอร์มของคนไทยทุกคน” คุณอนุพงษ์ กล่าว
ขณะที่ คุณกนกพร ประสิทธิ์ผล ผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล ส.ส.ท. ระบุถึงแนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์ม VIPA ว่า จากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมากระทั่งถึงวันนี้ VIPA มีการเติบโตขึ้นในทุกส่วน เมื่อเทียบกับปี 2564 ปัจจุบันถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 มียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้นกว่า 163% เช่นเดียวกับการรับชมผ่านเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 580% รวมถึงการติดตามในทุกโซเชียลมีเดียเติบโตขึ้นทุกช่องทางเช่นกัน โดย VIPA ให้บริการใน 7 กลุ่มเนื้อหา ประกอบด้วย กลุ่มละครและซีรีส์, กลุ่มรายการเด็กและครอบครัว, กลุ่มรายการอาหารและท่องเที่ยว, กลุ่มวาไรตี้และไลฟ์สไตล์, กลุ่มการศึกษา, กลุ่มสาระข่าวและความรู้ และกลุ่มสารคดีไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มสารคดีมีจำนวนมากที่สุดใน VIPA ถึง 27% มากถึง 102 เรื่อง 1,126 ตอน ซึ่ง VIPA ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังพบว่าสารคดีไทย “ติดถ้ำ” ที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าติดถ้ำหลวงปี 2561 เป็นสารคดียอดนิยมในการรับชมผ่านแพลตฟอร์ม VIPA
“เรายังพัฒนาทั้งเทคโนโลยีสตรีมมิงแพลตฟอร์มให้ทันสมัยเท่าเทียมแพลตฟอร์มชั้นนำระดับโลกอย่างต่อเนื่อง และยังให้ความสำคัญกับบริการ BIGSIGN ภาษามือใหญ่เต็มจอบริการพิเศษสำหรับคนหูหนวก รวมทั้งบริการเสียงบรรยายภาพ (Audio Description หรือ AD) สำหรับคนตาบอดได้เข้าถึงเนื้อหาได้เหมือนคนทั่วไป รวมถึงการรองรับเสียงตัวเลือกภาษาได้ถึง 6 ช่องสัญญาณเสียง (Audio Track) มาถึงวันนี้ VIPA จึงเป็นแพลตฟอร์มไทยที่พร้อมเปิดพื้นที่สร้างโอกาสให้กับผู้ผลิตคอนเทนต์ไทยได้ก้าวสู่ตลาดโลกได้ต่อไป” ผอ.สำนักสื่อดิจิทัล ส.ส.ท. ระบุ
ด้าน คุณคริษ อรรคราช รักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างสรรค์เนื้อหาฯ ส.ส.ท. ได้อธิบายถึงบทบาทของสารคดีแบบสื่อสาธารณะว่า ควรเป็นสารคดีที่รับใช้สังคม และต้องมีเนื้อหารอบด้านจากแหล่งข้อมูลหลากหลาย รวมถึงอยู่บนพื้นฐานการเคารพในความแตกต่าง อีกทั้งพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ผลิตสารคดีรุ่นใหม่ให้มองหาประเด็นที่เป็น Soft Power ในประเทศไทย ที่สามารถเล่าเรื่องผ่านภาพยนตร์สารคดีได้มากมาย นอกจากนี้ คนไทยเองก็คือ Soft Power ที่แข็งแรงที่สุด ซึ่งผู้ผลิตสารคดีรุ่นใหม่ควรมองหาจุดเด่นและสไตล์ที่เป็นของเราเองให้เจอ
ส่วนมุมมองจากคนเบื้องหลังสารคดีไทยทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ซึ่งมาร่วมจับไมค์ขึ้นเวทีทอล์กกับ VIPA ในครั้งนี้ เริ่มด้วย คุณชนินทร์ ชมะโชติ นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีไทย ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะผู้บุกเบิกเส้นทางสารคดีไทยสู่ตลาดโลกว่า ปัจจุบันต้องให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่อง (Story Telling) สอดรับกับความสนใจของผู้ชม จากเดิมในอดีตจะเน้นเรื่องอุปกรณ์ที่การถ่ายทำแต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาทำให้ทุกคนเข้าถึงอุปกรณ์ได้เหมือนกัน การเล่าเรื่องจึงกลายมาเป็นจุดนำ ในส่วนของผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีรุ่นใหม่ คุณณฐพล บุญประกอบ เจ้าของรางวัลภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยมหลายสำนักจากผลงานเรื่อง “เอหิปัสสิโก” เผยมุมมองส่วนตัวว่า ผู้ผลิตสารคดีไทยยังต้องเจออุปสรรคทั้งในแง่ของผู้ชม, ผู้ให้ทุน รวมถึงกฎหมายพื้นฐานที่ควรคุ้มครองคนทำสื่อให้กล้านำเสนอประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมากขึ้น
ขณะที่ คุณกฤตวิทย์ หริมเทพาธิป ผู้ร่วมก่อตั้ง Documentary Club ให้ความเห็นถึงปัญหาที่น่าวิตกของวงการสารคดีว่า เกิดจากพฤติกรรมของคนดูและระบบนิเวศของวงการที่เปลี่ยนไปส่งผลต่อการจัดจำหน่าย ซึ่งหมายถึงความอยู่รอดของทั้งผู้ลงทุนและผู้ผลิตด้วย โดยสารคดีจาก Documentary Club ที่ฉายผ่านแพลตฟอร์ม VIPA นั้น จะคัดเลือกจากประเด็นที่น่าสนใจ พร้อมวิธีการนำเสนอที่เป็นมิตร เพื่อสัมผัสผู้ชมได้หลากหลายกลุ่มและวัย
อย่างไรก็ตาม VIPA ยังคงเดินหน้าสร้างความแตกต่างจาก OTT แพลตฟอร์มอื่น ๆ ทั้งในแง่ของคอนเทนต์ที่มุ่งเน้นสาระและบันเทิงครบครัน เป็นทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มผู้ชมในตลาดสตรีมมิงเมืองไทยรับชมได้ฟรีไม่มีโฆษณา และยังให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสการทำงานร่วมกับผู้ผลิตอิสระหน้าใหม่ หรือ Young Creator และ Content Creator ที่กำลังมองหาพื้นที่เติบโต โดยเวทีทอล์ก VIPA ON STAGE ที่จัดขึ้นครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้าง Community ของกลุ่มผู้ผลิตสารคดีที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นบันไดไปสู่การร่วมกันผลักดันสารคดีคุณภาพของไทยให้ไปไกลถึงระดับโลก และสนับสนุนโอกาสสำหรับผู้ผลิตหน้าใหม่ในการสร้างสรรค์ผลงานที่จะยกระดับวงการสารคดีไทยในอนาคตต่อไป สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.thaipbs.or.th/VIPAonStage
สมัครและติดตามรับชม VIPA ได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ทุกที่ ทุกเวลา ได้ทาง www.VIPA.me, VIPA Mobile Application และ Smart TV Application ในระบบ iOS และ Android