2 ผู้บริหาร ผลิตภัณฑ์โรส โกล์ด จัดงานแต่งยิ่งใหญ่ จากคู่หูธุรกิจ กลายเป็นคู่ชีวิต สำหรับนิยามความสำเร็จของธุรกิจของแต่ละคนนั้นก็แตกต่างกันไป แต่หากพูดถึงธุรกิจเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ Rose Gold ที่มี 2 ผู้บริหารอายุน้อย พี่หนึ่ง ธันย์ธานิท อายุ 24 ปี และน้องวาวน้ำ แวววรรณ อายุ 20 ปี ที่ช่วยกันนำพาธุรกิจให้เดินหน้าแบบก้าวกระโดดและประสบความสำเร็จแบบลั้นหลาม เพราะถึงแม้ทั้งคู่จะอายุน้อยก็มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ โดยใช้กลยุทธ์ความสุขเป็นเครื่องมือในการทำงานด้วยพลังบวกด้านความคิด (Mind set) จนประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย
น้องวาวน้ำ แวววรรณ เปิดยว่า เราเริ่มต้นธุรกิจจากตัวเราเอง ค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์จากการดูเทรนด์ต่างๆ และค่อยๆ พัฒนาสินค้าจนเป็นสินค้าของเราเองภายใต้แบรนต์ “Rose Gold” ที่ไช้ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งคู่ เพราะพี่หนึ่ง ได้ทดลองใช้เองและเห็นผลลัพท์ดีจริง เมื่อสินค้าตัวแรกๆ “Rose Gold” ผลิตภัณฑ์ Seacret Forest ออกวางจำหน่ายครั้งแรกได้รับผลตอบรับดีมาก เนั้นการขายออนไลน์เป็นหลัก และมีตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งในปัจุบันผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการต้อนรับจาก ลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้มียอกขายกว่า 100 ล้านบาท
ทางด้านพี่หนึ่ง กล่าวเสริมว่า เรื่องธุรกิจเราทั้งคู่ได้ตั้งเป้าหมายใหญ่ไว้ตั้งแต่แรก ผ่านการวางแผนงานเป็นอย่างดี และมุ่งมั่นทำด้วยใจจริง เมื่อประสบความสำเร็จทางด้นรุรกิจแล้ว จึงมองว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะเดินเคียงคู่กันไป จึงได้ตัดสินใจขอคุณวาวน้ำแต่งงานและได้เนรมิตทั้งงานหมั้น และงานแต่งงานอย่างใจฝันด้วยเงินที่หามาจากน้ำพักน้ำแรงของเราทั้งสองคน
สำหรับแบรนด์โรสโกลด์นั้น เป็นแบรนด์ที่เราร่วมกันสร้างมา 2 คน ทำให้เรา 2 คนได้มีวันนี้ และมีทุกสิ่งที่ฝันไว้ จากทั้งงานหมั้นและงานแต่งงานวันนี้ ที่ทุกคนได้เห็นก็คงรู้ดีอยู่แล้วว่า ตัวน้องวาวมีความฝันกับงานนี้มากแค่ไหน แล้วการที่เราสามารถเนรมิตงานดั่งฝันได้ในอายุเท่านี้ มันคือความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของเรา 2 คน เพื่อที่จะเก็บให้ลูกๆ ของเราได้ดูในวันข้างหน้า และอยากให้พ่อแม่ของพวกเรามีความสุขไปพร้อมๆ กับเราทั้งสองคนด้วย
สำหรับงานหมั้นที่ผ่านมานั้นก็จัดยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นชุดไทยในงานหมั้นของเจ้าสาวที่สั่งตัดใหม่ด้วยผ้าไหมลำพูนแท้และปักลายใหม่ โดยได้ดีไซน์เนอร์แถวหน้าของเมืองไทย คุณสรรค์ สุดเกตุ เจ้าของห้องเสื้อ Vanus Coutoure โดยใช้เวลาตัดชุด 3 เดือน เป็นชุดที่มีตัวเดียวในโลก มูลค่า 150,000 บาท, ชุดเจ้าบ่าวตัดสูทพิเศษจากแบรนด์ Poem ส่วนช่างภาพและวีดีโอในงานเป็นทีมงานของคุณ Vin Buddy ทีมงานแถวหน้าของเมืองไทยที่ถ่ายให้งานแต่งงานของคุณชมพู่ อารยา, คุณมาร์กี้, คุณจุ๋ย + คุณพุฒิ, คุณทาทายัง และอีกมากมาย รองเท้าเจ้าสาวเลือกพิเศษที่ประเทศญี่ปุ่นแบรนด์ Jimmy Choo รองเท้าเจ้าบ่าวใช้หนังแก้วลายพิเศษจากแบรนด์ Louis Vuitton การ์ดแต่งงานที่ตั้งใจทำอย่างละเมียดละไมจากแบรนด์ Miidear Card ที่คุณชมพู่ใช้ ทุ่มงบค่าใช้วันหมั้นอย่างเดียวกว่า 1.5 ล้านไม่รวมสินสอดอีกกว่า 83 ล้านบาท โดยมีสินสอด เป็นเงินสด 2,000,000 บาท, ชุดเครื่องเพชร 10.18 กะรัต (1,300,000 บาท), ทองคำ 20 บาท (442,000 บาท), เรือนหอ Vana Residence (46,000,000 บาท) และยังมีสินทรัพย์เป็นรถสปอร์ต BMW i8 1 คันมูลค่ากว่า 12,000,000 บาท, รถตู้ Benz 1 คันมูลค่า 3,800,000 บาทและออฟฟิศที่สร้างด้วยกัน 18,000,000 บาท“ รวมสินทรัพย์ทรัพย์สินที่ทั้งคู่สร้างด้วยกันและเงินสดกว่า 83,542,000 บาท”
สำหรับความพิเศษของการจัดแต่งงานครั้งนี้นั้น เราได้เดินทางไปถ่ายภาพ Pre Wedding 5 ประเทศและใช้ช่างภาพและวิดีโอในงานเป็นทีมงานของคุณ Vin Buddy สำหรับชุดแต่งงานเจ้าสาวสั่งตัดใหม่โดยมีชุดเดียวในโลก จากดีไซนเนอร์ดังของเมืองไทย คุณใหม่ เจ้าของห้องเสื้อ Meshmusuem มูลค่าชุด 350,000 บาท และชุดเจ้าบ่าวสั่งตัดพิเศษจากแบรนด์ Poem, การ์ดแต่งงานที่สั่งทำวาดพิเศษสวยงามมูลค่า 340,000 บาทจากแบรนด์ Miidear Card, ชุดเพื่อนเจ้าสาวสุดคูลที่สั่งตัดจากแบรนด์ Made Off Fabric โดยเราเลือกใช้บริการของ Chic Planner ออร์กาไนซ์เจ้าดังที่เนรมิตทุกงานแต่งให้เป็นดั่งเทพนิยายภายใต้คอนเซปต์ Seacret Forest ความลับของผืนป่าและท้องทะเล ใช้งบในการจัดงานแต่งงานนี้ กว่า 5 ล้านบาท โดยใช้งบจากน้ำพักน้ำแรงของทั้งคู่เองทั้งหมด
โดยเราได้รับเกียรติจาก คุณประพันธ์ มนทการติวงศ์ อดีตอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานทั้งงานหมั้นและในวันงานแต่งงาน นอกจากนี้ยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมเป็นเกียรติในงานมากมาย อาทิเช่น คุณอาวิบูลย์ ลีรัตนขจร CEO of Search Entertainment ช่อง 3 เป็นต้น
เรียกได้ว่างานนี้เป็นงานใหญ่ไม่แพ้งานของดาราเซเลปชื่อดังของเมืองไทยเลยทีเดียว ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวถึงแม้อายุยังน้อย แต่พวกเขาก็เติบโตทั้งทางด้านธุรกิจ และความคิดที่เรียกได้ว่าน่ายกย่องและเอาเป็นเยี่ยงอย่างเรื่องการดำเนินธุรกิจและการดำเนินชีวิตด้วยความรอบคอบ, วางแผน และลงมือทำด้วยใจจริง ใช้งบของตัวเองไม่ได้พึ่งทางครอบครัว และอยากจัดงานให้พ่อแม่ของทั้งคู่ได้มานั่งร่วมงานอย่างมีความสุข แค่นี้ก็เป็นความภาคภูมิใจที่สุดของทั้งคู่แล้ว นอกจากเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จที่อายุน้อยแล้ว ทั้งสองคนเริ่มโด่งดังและได้ทำ Youtube channel ช่อง Crazyus จนได้รับฉายา “สองเด็กท่องโลก” ที่เริ่มมีผู้ติดตามจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นช่องยูทปนั้นก็เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของทั้งสองคน ทั้งการเดินทางท่องเที่ยว, ไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตแบบสนุกๆเป็นต้น แบบนี้สิที่เขาเรียกกันว่า “ความสำเร็จไม่จำกัดอายุ” ไม่ว่าจะ อายุเท่าไหร่ก็ประสบความสำเร็จได้จริงๆ