นายแพทย์สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลยันฮี พร้อมด้วย คุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และ แพทย์หญิงสิรินทรา สัมฤทธิวณิชชา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลยันฮี ร่วมกันแถลงข่าวสืบเนื่องกรณีที่ น.ส.อัง (นามสมมุติ) อดีตพริตตี้ ได้ร้องขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิฯ หลังป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ จนร่างกายผอมโซ ขาทั้ง 2 ข้าง มีอาการชาและลีบ ไม่สามารถเดินได้ ต้องทุกข์ทรมาน ทานอาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัย และพักอาศัยตัวคนเดียวในสภาพแวดล้อมที่สกปรกไร้คนดูแล ทางมูลนิธิฯ จึงได้รุดไปเยี่ยมที่บ้านพักก่อนรับตัวมาส่งที่โรงพยาบาลยันฮี เพื่อตรวจร่างกายและทำการรักษาโดยทันที
ซึ่งโรงพยาบาลยันฮี ยินดีให้การช่วยเหลือ พร้อมทั้ง ตรวจร่างกายและซักประวัติเพื่อทำการวินิจฉัยโรค ประเมินอาการ และวางแผนการรักษา รวมถึงจัดห้องพักในโรงพยาบาลให้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดการพักรักษาตัว เพื่อให้ น.ส.อัง สามารถกลับมาเดินและใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนเดิม
ด้าน นายแพทย์นเรศศักดิ์ เหล่าสงวนเอก แพทย์ด้านอายุรกรรมระบบประสาท โรงพยาบาลยันฮี ได้กล่าวถึงข้อสันนิษฐานเบื้องต้นจากการสังเกตและตรวจร่างกาย น.ส.อัง เป็นอาการเกี่ยวกับระบบประสาท ซึ่งต้องตามหารอยโรค อาจเป็นความผิดปกติบริเวณไขสันหลังหรือหมอนรองกระดูกทับเส้น ทั้งนี้ยังต้องรอผลเอกซเรย์และผลตรวจเลือดที่แน่นอน จึงจะสามารถยืนยันเรื่องการวินิจฉัยโรคและแนวทางการรักษาที่เฉพาะต่อไป
ทั้งนี้ ในขั้นตอนแรก สามารถวินิจฉัยได้ว่าโรคดังกล่าว ไม่ได้เกิดจากกรณีที่ น.ส.อัง ทำการผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีเมื่อปีก่อน แต่เป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่หลังผ่านการรักษาไปแล้ว โดยทั่วไปอาการเหล่านี้มักเกิดจากปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้น ซึ่งไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เมื่อพิจารณาร่วมกับอาการกล้ามเนื้อฝ่อและลีบที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้โรงพยาบาลต้องใช้เวลาในการดูแลรักษาพอสมควร เพื่อเฝ้าระวังถึงภาวะแทรกซ้อนหลังจากเดินไม่ได้ อาทิ แผลกดทับหรือแผลติดเชื้อที่มีแนวโน้มอันตรายมากกว่า
โดย แพทย์หญิงสิรินทรา ได้กล่าวเสริมว่า การรักษาเบื้องต้นของ น.ส.อัง จะมุ่งเน้นฟื้นฟูที่ระบบกล้ามเนื้อก่อน โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ และสหวิชาชีพด้านต่างๆ อาทิ โภชนบำบัด กายภาพบำบัด รวมถึง การให้วิตามินต่างๆ เพื่อเสริมสร้างและฟื้นฟูร่างกายให้ดีขึ้นโดยเร็ว
อีกทั้ง การรักษา น.ส.อัง ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ โรงพยาบาลยันฮี และมูลนิธิปวีณาฯ ร่วมกันช่วยเหลือสังคม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองหน่วยงานได้ช่วยกันดูแลรักษาผู้ป่วยหลายๆ เคส จนเป็นผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลยันฮีขอขอบคุณมูลนิธิฯ ที่เชื่อมั่นในทีมแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาล ในการช่วยเหลือสังคม และผู้ป่วยมากว่า 20 ปี ซึ่งเรายังคงมุ่งมั่น ตั้งใจ ในการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเยียวยาร่างกายและจิตใจให้ผู้ป่วยเหล่านั้น กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขต่อไป