YESUNG วง SUPER JUNIOR ถ่ายทอดทุกความรู้สึกและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ ในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย YESUNG SOLO CONCERT – Unfading Sense in BANGKOK

YESUNG (เยซอง) เมนโวคอลแห่งวง SUPER JUNIOR (ซูเปอร์ จูเนียร์) กลับมาเยือนประเทศไทยในฐานะศิลปินเดี่ยว พร้อมสร้างความประทับใจให้แฟนคลับชาวไทย ด้วยการถ่ายทอดทุกความรู้สึกให้รับฟัง ผ่านเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย YESUNG SOLO CONCERT – Unfading Sense in BANGKOK (เยซอง โซโล่ คอนเสิร์ต – อันเฟดิง เซนส์ อิน แบงค็อก) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2566 ที่ภิรัชฮอลล์ ณ ไบเทค บางนา

สำหรับคอนเสิร์ต YESUNG SOLO CONCERT – Unfading Sense in BANGKOK ครั้งนี้ YESUNG (เยซอง) ได้สะกดผู้ชมให้ดื่มด่ำอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปกับหลากหลายความรู้สึกของเขา ด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทั้งเสียงร้องที่มีศิลปะอันงดงาม และเซ็ตลิสต์ที่เน้นเพลงจากอัลบั้ม ‘ซีรีส์ความรู้สึก (Sense Series)’ ซึ่งก็คือ 3 อัลบั้มล่าสุดที่ปล่อยในปี 2566 ได้แก่ อัลบั้มเต็มชุดแรก ‘Sensory Flows’ อัลบั้มเต็มชุดแรกเวอร์ชันพิเศษ ‘Floral Sense’ และมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Unfading Sense’ ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีวงดนตรีสด รวมถึงโปรดักชันอันน่าตื่นตาตื่นใจทั้งหมดที่ YESUNG (เยซอง) ใส่ใจอย่างพิถีพิถันในการออกไอเดียเอง อาทิ การออกแบบเวทีสุดพิเศษที่เต็มไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง จอทรงกลมขนาดใหญ่กลางเวทีที่เปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ และภาพเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนรูปแบบตามบรรยากาศของเพลง

YESUNG (เยซอง) ปรากฏตัวมาปลุกประสาทสัมผัสของทุกคนให้เริ่มต้นรับความรู้สึกแรกผ่านน้ำเสียงอันนุ่มนวล ในเพลง ‘Scented Things’ เพลงอินดี้ ป๊อปแสนเศร้า ถ่ายทอดความรู้สึกที่เบ่งบานพร้อมกับประสบการณ์ที่ยังคงอยู่ทุกแห่งหน ราวกับกลิ่นที่ไม่เคยจางหายไป ตามด้วยเพลงป๊อป บัลลาดที่ให้ความรู้สึกน่ารักแต่เศร้าอย่าง ‘Fornever’ ที่ YESUNG (เยซอง) มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อเพลงบรรยายถึงหัวใจที่ใฝ่ฝันถึงความเป็นนิรันดร์ที่ไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไป และเพลงป๊อป บัลลาดสุดโรแมนติก ‘Silhouette’ เปรียบเทียบความปรารถนาที่จะมีใครสักคนกับภาพเงาที่ส่องประกาย นอกจากนี้ YESUNG (เยซอง) ยังเผยเสียงร้องอันไพเราะผ่านเพลง ‘Floral Sense’ แสดงความรู้สึกของความรัก ซึ่งเปรียบเสมือน ‘ความรู้สึกของดอกไม้’ ที่เติบโตและเบ่งบานไปตามดวงอาทิตย์และผืนน้ำ จากนั้นพาปล่อยใจล่องลอยไปกับกระแสความรู้สึก ท่ามกลางบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ในบทเพลงอย่าง ‘아름다워 (Beautiful)’, ‘HO’, ‘같아 우리 (Like Us)’, ‘All Night Long’ รวมถึงโชว์ทักษะการร้องเพลงอันยอดเยี่ยมในเพลง ‘Bear Hug’ และ ‘Corazón Perdido (Lost Heart)’ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลง ‘Small Things’ ที่สื่อออกมาผ่านการร้องเพลงอย่างสละสลวยว่า ความรู้สึกเล็ก ๆ น้อย ๆ และหัวใจเล็ก ๆ รอบตัวเราจะกลายเป็นหนึ่งหัวใจดวงใหญ่ร่วมกัน และเพลงที่ชวนให้ผู้ชมร้องตามกันอย่างสดใส ‘Slide Away’

เดินทางมาถึงช่วงอังกอร์จบคอนเสิร์ตกับเพลงที่มีความหมายซึ้ง ๆ อย่าง ‘이렇게 우리는 (Like Us)’, ‘우리의 시간 (Together)’ และเพลงสุดท้าย ‘나 (I am)’ ที่เนื้อเพลงแต่งโดย YESUNG (เยซอง) ส่งต่อข้อความเชิงบวกเกี่ยวกับการรักตัวเอง ด้านแฟนคลับชาวไทย E.L.F. (เอลฟ์ : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ก็เติมเต็มให้คอนเสิร์ตครั้งนี้สวยงามยิ่งขึ้น ทั้งโปรเจกต์สวนดอกไม้เรืองแสง, พัดรูปหน้าปัดนาฬิกาคำว่า “FOREVER คุณกับฉัน” และรูปสุนัขคู่ใจของ YESUNG (เยซอง) ตลอดจนแบนเนอร์ความหมายกินใจ “ชอบทุกอย่างของ YESUNG” ช่างสมกับความหมายของชื่อคอนเสิร์ตที่คิดโดย YESUNG (เยซอง) ว่า “ความรู้สึกที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่อาจจางหายไป” ดังนั้น ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ YESUNG (เยซอง) จึงแสดงความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาผ่านการร้องเพลง ตั้งแต่เริ่มจนจบตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 19 บทเพลง เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสไปพร้อมกันอย่างเต็มอิ่ม และคงเหลือไว้เพียงแต่ความทรงจำที่จะไม่จางหายไปจากใจของทุกคน