กรุงเทพฯ : สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา น.ส.นภศร ศิริสรรหิรัญ หรือ “ซ้อยุ้ย” ผู้บริหาร วายบีคลีนิก พร้อมด้วย ทนายความ และ น.ส.ศุภรดา รินรดามณี หรือ ปิ๋ม ซีโฟร์ นักร้อง-นักแสดง เข้าร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.เดชาทัต อังกาบทศกร รอง สว.(สอบสวน) สน.ประชาชื่น หลังถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คำหมิ่นประมาท กรณีโอนเงินซื้อขายรถยนต์กับศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่ง โดยกล่าวหาว่าตนฉ้อโกงเงิน จนทำให้เสียชื่อเสียงในทางธุรกิจ
“ซ้อยุ้ย” กล่าวว่า ตนมีแผนจะเปลี่ยนรถเบนซ์ จีแอลเอส คันเดิม จึงไปขายกับศูนย์รถดังกล่าว เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ โดยให้เลขาฯ จัดการเรื่องการขายต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยตีราคาได้ 2.3 ล้านบาท แต่รถติดไฟแนนซ์ 8 แสนบาท จึงเหลือ 1.5 ล้านบาทที่ตนเองจะได้รับ ซึ่งตามกฎหมายแล้ว การขายรถมือสองจะต้องได้เงินเต็มจำนวนในวันนั้น แต่พนักงานขายอ้างว่าเจ้านายอยู่ต่างประเทศ ยังไม่สามารถดำเนินการโอนเงินทั้งหมดให้ได้ ขอจ่ายมัดจำก่อนเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท เหลือที่ค้างโอนอีกจำนวน 1,450,000 บาท ตนเชื่อมั่นในรีวิวต่างๆ และเนื่องจากศูนย์ดังกล่าวเป็นบริษัทใหญ่น่าเชื่อถือ จึงไม่ติดใจอะไร ก่อนจะจอดรถทิ้งไว้ที่ศูนย์ โดยพนักงานอ้างว่าระหว่างนี้จะจัดการส่วนที่ติดไฟแนนซ์ให้แล้วเสร็จ
ผ่านไป 5 วันแล้ว ตนเองก็ยังไม่ได้รับเงินเต็มจำนวน เมื่อสอบถามไปพนักงานที่รับซื้อรถก็พยายามบ่ายเบี่ยง จนวันที่ 27 พฤษภาคม พบว่าศูนย์ดังกล่าวนำรถตนเองไปประกาศขายผ่านเพจเฟซบุ๊กแล้ว เมื่อสอบถามไป พนักงานตอบกลับจะจัดการโอนเงินทั้งหมดให้ในวันที่ 30 พฤษภาคม ปรากฏว่าทางศูนย์ได้โอนเงินเข้ามาให้ในช่วงเย็นของวันที่ 30 พ.ค. 62 เป็นจำนวนเงิน 1.5 ล้านบาท แต่ตนเองยังไม่ได้เช็คยอดเงินว่าเข้ามาเท่าไหร่ จึงไม่ทราบว่าทางศูนย์โอนเงินมาเกินจำนวน จนมาทราบเรื่องกับนาย ณธัชพงศ์ ธนวัฒน์ทวีชัย เป็นเลขาที่ดูแลเรื่องการขายรถ ของตนว่ามียอดโอนเงินเกินมา 50,000 บาท หลังทราบตนเองก็โอนเงินที่เกินมาคืนทั้งหมด ตอนช่วง 2 -3 ทุ่มของวันที่ 30 พ.ค. 62 ทันที “ซ้อยุ้ย” กล่าวเพิ่มเติม
ด้านนาย ณธัชพงศ์ ธนวัฒน์ทวีชัย อายุ 28 ปี เลขาฯ ส่วนตัวซ้อยุ้ย ในฐานะพยานกล่าวว่า ศูนย์รถดังกล่าวส่งข้อความเข้ามาในช่วงค่ำ แจ้งว่าได้โอนเงินเกินมาประมาณ 5 หมื่นบาท แต่ระหว่างนั้นตนติดประชุม จึงไม่ทราบว่ามีโทรศัพท์เข้ามา ตนไม่ได้รับสาย จากนั้นก็มีข้อความจากทางศูนย์ให้โอนเงินกลับและทิ้งท้ายข้อความว่าจะดำเนินคดี เมื่อทราบเรื่องจึงเร่งคืนเงินกลับทันที หลังโอนเงินที่เกินมาคืนทั้งหมดแล้วก็ได้พยายามโทรกลับไปหาทางศูนย์ว่าได้โอนเงินแล้วแต่ทางศูนย์ไม่รับสาย แต่ทางศูนย์ได้มีการส่งข้อความตอบโต้ดูหมิ่นว่าทาง “ซ้อยุ้ย” ฉ้อโกงเงินไป 50,000 บาท ทั้งๆที่ได้โอนเงินคืนทั้งหมดไปแล้ว จนมาทราบว่า ในวันรุ่งขึ้น(31พ.ค.62) ทางศูนย์ได้เดินทางไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ประชาชื่นแล้ว
“ซ้อยุ้ย” ยังกล่าวอีกว่า ที่ตนมาแจ้งความในครั้งนี้เพราะ ตนอยากปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองและบริษัท เนื่องจากทางศูนย์ดังกล่าวได้กล่าวหาว่าตนเป็นคนฉ้อโกง อาจทำให้ลูกค้าเสียความเชื่อมั่นในตนเองและธุรกิจ จึงอยากออกมาปกป้องสิทธ์ตรงนี้ นอกจากนี้ยังมีข้อความข่มขู่ต่างๆที่ทำให้ตนเองรู้สึกหวาดกลัวว่าจะถูกปองร้ายถึงชีวิตและทรัพย์สิน จึงอยากดำเนินคดีตรงนี้ให้ถึงที่สุด และเรื่องราวจะจบยังไงก็ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายที่จะดำเนินการต่อไป